บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์(GLOBAL) มีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการที่ GLOBAL ได้รับพันธมิตรใหม่คือ SCC ซึ่งมีโครงข่ายที่กว้างขวาง และเป็นมืออาชีพก็จะช่วยเสริมให้แผนธุรกิจในเชิงรุกประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง logistic, ทรัพยากรบุคคล และระบบ IT และเป็นการเตรียมรับกับ AEC ในอนาคต
สำหรับ synergies ที่ได้รับคือ การเกิด economy of scale ที่ปริมาณการสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นมาก ทั้งสินค้าในประเทศและนำเข้า ขณะที่รูปแบบสโตร์ที่ประสบความสำเร็จจะยังดำเนินต่อไป เพราะผู้บริหารเดิมยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่ดีต่อไป เนื่องจากยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สัดส่วนประมาณ 40% หลังจากดีลนี้เสร็จ
อีกทั้งเงินทุนที่ได้รับเพิ่มอีก 3.2 พันล้านบาท ที่ได้จากการเพิ่มทุน PP ก็จะช่วยเร่งการเพิ่มสาขาเป็น 12-15 แห่งต่อปี จากเดิม 8 แห่งต่อปี เราเห็นว่า dilution ที่เพียง 9% นั้นถือเป็นเรื่องรอง เพราะจากนี้ไป GLOBAL จะมีรูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก ส่งผลดีต่อการเติบโตในอนาคต เมื่อได้พันธมิตรที่ใหญ่อย่าง SCC เข้ามา
ตามที่ GLOBAL ได้บรรลุข้อตกลงกับ SCC ที่ SCC จะมาซื้อหุ้น 31.01-34.36% ใน GLOBAL วิธีการคือ 1) มีการเพิ่มหุ้นอีกจำนวน 224 ล้านหุ้น นั่นคือมีการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จัดสรรให้กับ SCC ที่ราคา 14 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 10% 2) SCC จะมีการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์แบบบางส่วน (partial tender offer) จากผู้ถือหุ้นในปัจจุบัน ให้ได้สัดส่วนที่เหลืออีก 21.01-24.36% รวมถึงวอร์แรนท์ด้วยที่ราคา 9.30 บาทต่อหน่วย
ในกรณีที่ SCC ไม่สามารถเข้าถือหุ้นได้ในสัดส่วนที่ต้องการคือ ได้รับน้อยเกินไป ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ GLOBAL (เจ้าของและครอบครัว) ซึ่งถือหุ้น 65% ก็มีข้อตกลง (gentleman agreement) กับ SCC ที่จะขายหุ้นอีกจนกว่า SCC จะได้หุ้นในสัดส่วน 31-34% ส่วนในกรณีที่มีนักลงทุนมาทำเทนเดอร์ฯมากเกินไปก็จะใช้วิธีซื้อแบบปันส่วน (pro rata)
พร้อมกันนี้ ยังคงประมาณการเดิมและราคาพื้นฐานที่ 15.10 บาทไว้ก่อน และคาดว่าจะมีการปรับประมาณการให้ดีขึ้น เมื่อได้รับข้อมูลจากผู้บริหารและการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 ต.ค.55 ก่อน
ล่าสุด เมื่อ 24 ส.ค.55 ราคาหุ้น GLOBAL ปิดที่ 13.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท(+2.27%)