นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดฯในช่วงนี้คงจะซบตัวลงมาก่อน หลัก ๆ เป็นเพราะเริ่มเข้าสู่จุดของการรอคอย อีกทั้งเริ่มมีการสลับการเปลี่ยนกลุ่มเล่นด้วย ดังนั้นในช่วงสั้นนี้ตลาดฯคงจะอ่อนตัวลงก่อน ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้อ่อนตัวลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ตลาดฯเฝ้ารอคอยการแก้ไขปัญหาของยุโรป และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดังนั้นยังมองว่าในช่วงจังหวะที่อ่อนตัวลงนี้ก็น่าซื้อที่บริเวณแนวรับสำคัญ โดยหุ้นที่น่าลงทุนเป็นหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี โดยเฉพาะพวกที่ราคาหุ้นยัง Laggard อยู่
พร้อมให้แนวรับ 1,224 จุด แนวต้าน 1,243 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(27 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,124.67 จุด ลดลง 33.30 จุด(-0.25%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,410.44 จุด ลดลง 0.69 จุด(-0.05%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,073.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด (+0.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.12 จุด เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดจีน ลดลง 0.74 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 75.37 จุด เวทเต็ดไต้หวัน ลดลง 27.66 จุด คอมโพสิต ตลาดเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.15 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.50 จุด FBMKLCI มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.11 จุด และ FTSE STI สิงคโปร์ ลดลง 3.83 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(27 ส.ค.)ที่ระดับ 1,233.73 จุด ลดลง 3.46 จุด(-0.28%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 166.29 ล้านบาทเมื่อ 27 ส.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 95.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.68 ดอลลาร์ฯหรือ 0.71%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด(27 ส.ค.)ปิดทำการที่ 10.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 31.33/35 ปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค
- "ยิ่งลักษณ์"รับส่งออกทรุดเผชิญสารพัดปัจจัยเสี่ยง จี้ "ทีมไทยแลนด์" เร่งเครื่องผลักดันการส่งออก พร้อมเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานช่วยลดต้นทุนผู้ส่งออก เอกชนปรับตัวบริหารต้นทุนรับออเดอร์หด ชี้ หากเงินยูโรไร้ค่ากระทบต้นทุนการเงินผู้ส่งออก
- คปภ.คาดปีนี้ธุรกิจประกันโตเกิน 20% หลังครึ่งแรกปีนี้โต 19.33% จากประกันรถคันแรก-น้ำท่วมปลายปี 2554 ประเมินสิ้นปี คนแห่ทำประกันน้ำท่วม 7.2 แสนฉบับทุนประกันไม่ต่ำกว่า 3.2 แสนล้านบาท
- นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ (พณ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ว่า ในวันจันทร์ที่ 3 ก.ย.นี้ จะประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์และขับเคลื่อนการส่งออกไปตลาดในภูมิภาคยุโรปและตลาดศักยภาพอื่นๆโดยจะปรับเป้าหมายการส่งออกใหม่
- "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" รมว.คมนาคม เผยกระทรวงคมนาคมเตรียมจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งและระบบเชื่อมต่อเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนโดยเน้นเส้นทางเชื่อมระหว่างประตูการค้าชายแดนหลัก 8 แห่งไปยังประตูการค้าหลักของประเทศ คือ ท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินสุวรรณภูมิ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องดำเนินโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน รถไฟ รวม 75 โครงการ วงเงินประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการปี 2556-2563 คาดแผนจะสรุปแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้
- นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม เผยขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงนโยบายตรึงราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวน เพราะทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลในปีนี้เฉลี่ยอยู่ในระดับ 1 บาท/ลิตรเท่านั้น ต่ำกว่าระดับ 1.50 บาท/ลิตร ที่ควรจะได้รับ ซึ่งจะทำให้รายได้ค่าตลาดน้ำมันหายไป 50 สต./ลิตรเมื่อคำนวณจากปริมาณจำหน่ายดีเซลทั้งหมดในประเทศวันละ 58 ล้านลิตร จะกระทบรายได้หายไปวันละ 30 ล้านบาทหรือเดือนละ 800-900 ล้านบาท
- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) กล่าวว่า กฎหมายลูกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรืออินฟราสตรักเจอร์ ฟันด์ จะมีผลบังคับในไม่ช้านี้โดยในส่วนของกระทรวงการคลังได้วางแผนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ตั้งกองทุนวงเงิน 2,000 ล้านบาทเพื่อนำเงินมาลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าผลิตขายใช้ภายในประเทศ
- นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เท่าที่ติดตามดูข้อมูลภาพรวมภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ในภาพรวมยังไม่มีอะไรผิดปกติจนน่าห่วง โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องหลังเผชิญปัญหาน้ำท่วมปีที่ผ่านมา
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"วันนี้ขึ้นเครื่องหมาย XR หุ้นเพิ่มทุนที่จะออกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 4:1 ราคา 12.60 บาท และขึ้น XD เงินปันผลระหว่างกาล 0.36 บาท/หุ้น คาดราคาหลังขึ้นเครื่องหมายจะอยู่ที่ 16.50 บาท อย่างไรก็ดีคงราคาเหมาะสม 20 บาท มองว่า KTB นั้นมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐบาล และการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้เงินกองทุนของ KTB แข็งแกร่งขึ้นด้วย และถึงแม้ว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ KTB มีจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้น แต่เยังคงคาดว่า KTB จะยังคงเป็นหุ้นที่มีระดับเงินปันผลตอบแทนสูงอยู่ โดยทั้งปี 2555 คาดว่า KTB จะมีการจ่ายปันผล 0.76 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.3%
- AH(บัวหลวง)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท CEO ของ AH กล่าวว่า ยอดขายปี 2555 จะโตประมาณ 30% YoY หนุนโดย การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมหลังจากน้ำท่วมในปี 2554 และนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล และคาดว่ายอดขายในไตรมาส 3/55 ทรงตัวจากไตรมาสที่สอง และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.5% โดยคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 3/55 จะทรงตัวอยู่ที่ 140 ล้านบาท และ AH น่าจะบรรลุความประหยัดทางขนาดจากปริมาณขายที่สูงขึ้นและความมีประสิทธิภาพของเครื่องจักรใหม่
- TISCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสะม"ราคาเหมาะสม 49.00 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการใน 2H55 และประเมินว่าเป็น 1 ในบริษัทที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการขยายระยะเวลารับมอบ "รถคันแรก" ไปเป็นภายในปี 2555
- SPCG(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 22.63 บาท กระทรวงมหาดไทย จะนำเสนอต่อครม.ในวันนี้ เพื่ออนุมัติภาษีและค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure Fund โดยคาดว่าจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดตั้งกองทุนที่ร้อยละ 0.01% แต่ไม่เกินกว่า 1 แสนบาท ประเมินว่าความคืบหน้าดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น SPCG เนื่องจากจะส่งผลให้การระดมทุนของบริษัทเป็นไปตามกำหนดการ และทำให้บริษัทมีเงินทุนเพื่อไปต่อยอดในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โรงที่ 17-34 และจะเสร็จได้ทันตามแผนงานในปี 2556