ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,210.07 จุด ลดลง 10.09 จุด(-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 12,647.19 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,217.15 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,207.79 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับฐานลงเช่นกันแต่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดฯรับปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศเป็นหลัก เนื่องจากกำลังรอถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไรในวันพรุ้งนี้ ซึ่งขณะนี้มีบางกลุ่มมองว่าอาจจะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE3)ออกมา ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมากันก่อน
นอกจากนี้ ด้านยุโรป เวลานี้ต่างก็รอผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 ก.ย.นี้ด้วย ว่าจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรปหรือไม่ โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีเยอรมนีและนายกรัฐมนตรีอิตาลีมีความคิดเห็นไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการทำธุรกรรมด้านธนาคารให้กับกองทุน ESM ซึ่งเรื่องนี้ได้มองจุดสำคัญในวันที่ 12 ก.ย.นี้ มากกว่า ว่าศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันจะมีคำวินิจฉัยที่จะให้การรับรอง ESM หรือไม่
สำหรับตัวเลขการส่งออกของไทยที่ออกมาแย่ เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว และเชื่อว่าตลาดฯก็น่าจะรับรู้มาพอสมควร ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่าที่จะกดดันตลาดฯ เนื่องจากโดยภาพรวมยังมองว่าตัวเลข GDP ของไทยในปี 55 น่าจะมีการเติบโตในระดับ 4.8-5% ได้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะได้รับแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง เนื่องจากมีบางคนก็มีการคาดคะเนว่าประธานเฟดอาจพูดอะไรที่เป็น positive และการประชุมที่เมืองแจ็คสันโฮล มลรัฐไวโอมิง ผู้ว่า ECB ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ตรงนี้แสดงว่าต้องมีอะไรที่ต้องทำให้เสร็จก่อนการประชุม ECB ในวันที่ 6 ก.ย.ที่ยังคงคิดว่า ECB จะมีการข่าวในทาง positive พร้อมให้แนวรับ 1,200 จุด แนวต้าน 1,218 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 751.77 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 584.15 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 554.81 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 465.59 ล้านบาท ปิดที่ 207.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 441.53 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง 3.50 บาท