บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย(VGI)เตรียมเคาะราคาขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)ในวันที่ 13 ก.ย.ก่อนจะเปิดให้จองซื้อหุ้นในช่วงปลายเดือน ก.ย.ถึงต้นเดือน ต.ค.55 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้ VGI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 26,000,000 หุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS)จำนวน 25,074,432 หุ้น และผู้ถือหุ้นของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) จำนวน 925,568 หุ้น ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมคือ BTSC จะเสนอขายหุ้นสามัญเดิมของ VGI ให้แก่ประชาชน 62 ล้านหุ้น
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ กลุ่มลูกค้าบรรษัท บล.ทิสโก้ คาดว่าจะเปิดให้ผู้ถือหุ้น BTS และ BTSC ในระหว่างวันที่ 19 - 25 ก.ย. นี้ และ ให้นักลงทุนทั่วไปเข้าจองวันที่ 28 ก.ย., 1-2 ต.ค.นี้
"ตอนนี้เราเดินสายโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะประกาศราคา IPO ได้ 13 ก.ย. โดยจะประกาศช่วงราคาก่อนหน้า 2-3 วัน ถ้าไม่ติดขัดอะไร หลังแจ้งราคาสุดท้ายไป ไฟลิ่ง น่าจะ effective 14-17 ก.ย. และคาดว่าจะเข้าเทรดได้ในวันที่ 11 ต.ค." นายธนะชัยกล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าในส่วนผู้ถือหุ้นเดิมของ BTS ส่วนหนึ่งจะไม่จองซื้อเพราะเห็นว่า BTS ถือหุ้น VGI อยู่แล้ว จึงทำให้ในส่วนหุ้นที่จะขายให้นักลงทุนทั่วไปมีจำนวนเกินกว่า 62 ล้านหุ้น โดยสัดส่วนการจัดสรรให้กับผู้มีอุปการะคุณ 12 ล้านหุ้น ส่วน 50 ล้านหุ้นจะขายให้กับนักลงทุนต่างประเทศ 60% และนักลงทุนในประเทศ 40% ทั้งนี้ VGI ต้องการให้สถาบันหรือนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน ขณะที่ BTS ยังถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ 70.67% จากก่อนขาย IPO สัดส่วนที่ 99.99%
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ VGI และประธานกรรมการบริหาร BTS กล่าวว่า BTS คาดว่าจะรับรู้กำไรจากขายหุ้น VGI ทันทีหลังเข้าเทรดในตลาด อนึ่ง BTS มีต้นทุนหุ้น VGI ทั้ง 25 บาทและ 1 บาท หากสามารถขายหุ้นในราคามากกว่า 30 บาท/หุ้น และคำนวณราคาต้นทุนที่ 1 บาท/หุ้น BTS จะมีกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ประมาณ 1.8-2 พันล้านบาท
ด้านนางสาวศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน ของ VGI คาดว่าจะระดมทุนจากการขายหุ้น IPO ครั้งนี้ราว 850-900 ล้านบาทเพื่อนำไปลงทุนขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในงวดปี 55/56 รายได้จะเติบโตราว 40% จากงวดปี 54/55 ที่มีรายได้ 2 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในงวดปีนี้จะเพิ่มเป็น 25% จากงวดปีก่อนอยู่ที่ระดับ 14%
ในไตรมาส 1/55-56 (เม.ย.-มิ.ย.55)รายได้เติบโต 36% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิทำได้ 25% และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 จะดีกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากยังมีงานที่คงค้างจากเมื่อปลายปีที่แล้วที่มีปัญหาน้ำท่วม และการเติบโตของพื้นที่โฆษณาที่ขยายตามจำนวนรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง การขยายพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรดตามการขยายสาขา
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงทุนในจีนผ่านห้างซีพี-โลตัส ในการให้เครือข่ายสื่อวิทยุตามห้างซึ่งได้ลงทุนไปที่เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า
ด้านนายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวว่าบริษัทได้รับสิทธิบริหารสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ประเภทสื่อภาพนิ่งและสื่อดิจิตอลบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลอดจนพื้นที่เชิงพาณิชย์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จำนวน 23 สถานี โดยได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวตลอดอายุสัญญาสัมปทานของบีทีเอสที่จะสิ้นสุดในปี 2572
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการบริหารสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ได้แก่ เทสโก้-โลตัส, บิ๊กซี และ วัตสัน ในรูปแบบสื่อดิจิตอล ภาพนิ่ง และสื่อวิทยุ ณ จุดขายทั้งในส่วนของพื้นที่ชั้นวางสินค้า และพื้นที่ด้านนอก ขณะเดียวกันบริษัทยังเข้าไปบริหารสื่อโฆษณาภายในอาคารสำนักงานชั้นนำจำนวน 51 แห่ง ทั่วกรุงเทพ โดยมีสื่อโฆษณาหลักได้แก่ จอดิจิตอล จำนวน 452 จอ ติดตั้งในลิฟท์โดยสารภายในอาคารสำนักงาน