ขณะที่รายได้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ราว 3.2 พันล้านบาท แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกรายได้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 54 แต่ช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะจากรายได้งานวาณิชธนกิจ(IB)ที่จะทยอยเข้ามาสนับสนุน ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีดีลงาน IB ที่จะสรุปได้ 2-3 ดีล ได้แก่ งานที่ปรึกษาการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการควบรวมกิจการ(M&A)ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขนาดดีลรวมราว 1 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีดีลที่อยู่ในระหว่างการเจจาอีกจำนวนมาก ทั้ง M&A, IPO, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจหลักทรัพย์ยังน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 12-13% หลังจากครึ่งปีแรกทำได้แล้วที่ 12.15% ปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์ 1.1 แสนบัญชี เป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ 4.6-4.7 หมื่นบัญชี
นายมนตรี ยังกล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังยังมองเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,300 จุด ส่วนจะขึ้นไปถึงในช่วงไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดที่ปัจจุบันยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก แต่ถึงจะมีข่าวดีก็คงปรับขึ้นไปได้ไม่ไกลและหากมีข่าวร้ายก็คงลงไปไม่ลึก อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่าวอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท/วันใกล้เคียงปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.9-3 หมื่นล้านบาท