ก.ล.ต.จับมือตลาดหุ้นลาว-เขมร-เวียดนาม พัฒนาการซื้อขายหุ้นสู่อินโดไชน่าลิงก์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 30, 2012 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในการจัดงาน Thailand Focus 2012 ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว หารือร่วมกันเป็นครั้งแรก และมีแนวคิดที่จะพัฒนาความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มให้มีการซื้อขายเป็นระบบเดียวกัน และจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังอาเซียนลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อปรับปรุงระบบการซื้อขาย ระบบตรวจสอบ ระบบการชำระราคา การส่งมอบหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

"ใน 4 ประเทศ 5 ตลาดหลักทรัพย์ (เวียดนามมี 2 ตลาดหลักทรัพย์ คือตลาดหลักทรัพย์ฮานอย และตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์) จะมีความร่วมมือกันเพื่อเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลา เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชาเพิ่งเริ่มจัดตั้ง ส่วนลาวก็เพิ่มมีการซื้อขายหลักทรัพย์ไม่นาน"นายวรพล กล่าว

ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการสนับสนุนความร่วมมือแก่ประเทศดังกล่าว ทั้งการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม และการช่วยยกร่างกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศลาว

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ถือเป็นคร้งแรกที่มีการรวมตลาดทุนในภูมิภาคอินโดนจีนเข้าร่วมงานเพื่อนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน และเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยในการเชื่อมโยงตลาดทุนอินโดจีนเข้าด้วยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนจากทั่วโลกได้รับทราบถึงการพัฒนาและศักยภาพของตลาดทุนภูมิภาค

สำหรับ การจัดงาน Thailand Focus 2012- Position Thailand For the Next Growth Phase ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ 122 ราย บจ.ไทย 89 แห่ง และการประชุม 1,065 ครั้ง และยังเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์อินโดจีน 4 แห่ง และบจ.อินโดจีน 4 แห่ง เข้าร่วมงาน

การจัดงานครั้งนี้ผู้ลงทุนได้เห็นโอกาสและศักยภาพของเศรษฐกิจและบจ.ไทย โดยเน้น 2 ด้านหลัก คือ Next Growth Phase ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของ บจ.ในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดเอเซียถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีความโดดเด่นทั้งสภาพคล่องและ บจ. โดยที่รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความสามารถการทำกำไรของ บจ.

ส่วนอีกด้านคือ Position จากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนและอินโดจีนที่มีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์จึงทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนของ บจ.ไทยเพื่อขยายธุรกิจสู่ภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับลดข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ต่างๆมากขึ้น เช่น เกณฑ์ holding company รวมถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคที่จะส่งผลให้ บจ.และผู้ลงทุนได้รับประโยชน์มากขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ