(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว นลท.วิตกปัญหาศก.หลังตัวเลขยุโรป-จีนออกมาไม่ดี

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะแกว่งตัวลงออกด้านข้าง จากประเด็นเมื่อวันศุกร์ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กำชับจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด เพราะอัตราการว่างงานยังสูงอยู่

ประกอบกับข่าวร้ายจากจีนที่มีตัวเลขภาคการผลิตลดลงต่อเนื่อง ในเดือน ส.ค. ลดลงจากเดือน ก.ค. ที่ 50.1 อยู่ที่ 49.2 ต่ำกว่าระดับ 50 ในรอบ 8 เดือน

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรปก็มีหลายตัวที่ไม่ค่อยดีนัก อาทิ ตัวเลขค้าปลีกเยอรมันที่ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยอดค้าปลีกเยอรมันเองก็ลดลงมากขึ้น

ช่วงนี้จึงถือเป็นความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ แต่ก่อนหน้านี้เป็นความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและ ช่วงนี้ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางในหลายประเทศ ทั้งไทย สหรัฐ ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไป ขณะที่ยอดขายจากต่างชาติยังขายต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับ 1,215-1,220 จุด แนวต้าน 1,235 บวก/ลบ

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(31 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,090.84 จุด เพิ่มขึ้น 90.13 จุด(+0.69%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,406.58 จุด เพิ่มขึ้น 7.10 จุด(+0.51%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 18.25 จุด(+0.60%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 3.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 67.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.37 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.37 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(31 ส.ค.)ที่ระดับ 1,227.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.93 จุด(+1.06%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 886.33 ล้านบาทเมื่อ 31 ส.ค.55
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 96.47 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด(31 ส.ค.)ปิดทำการที่ 9.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.25/27 ปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค
• ส.อ.ท.ประเมินการส่งออกคาดไตรมาส 3 ติดลบ 0.6% ไตรมาส 4 กลับมาบวก 31.5% ดันยอดทั้งปีโตแค่ 5.7% ด้านสภาผู้ส่งออกคาดโต 5.9% เผยการส่งออกชะลอตัวส่งผลกระทบสภาพคล่องผู้ประกอบการ กลุ่มยานยนต์ มั่นใจส่งออกตามเป้า 700,000 ล้านบาท ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ประเมินโตได้ 5% ขณะที่กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม-กุ้งติดลบ แนะรัฐเลิกกระตุ้นส่งออกสหรัฐ-ยุโรปหันซบเอเชียแทน
• แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยขณะนี้รายงานผลสำรวจผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วัน นำร่อง 7 จังหวัด ที่มีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมายังรวบรวมไม่เสร็จ จึงทำให้การผลักดันเรื่องให้รัฐบาลชะลอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วันที่จะมีผลทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 ออกไปอีก 1-2 ปีไม่เป็นผล
• เรกูเลเตอร์เล็งกดค่าเอฟทีงวดสุดท้ายขยับแค่ 10-20 สต.จากต้นทุนจริงต้องปรับไม่ต่ำกว่า 50 สต. เหตุบาทอ่อน ค่าเชื้อเพลิงพุ่ง, นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ก.ย.จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) รอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2555 ที่มีนายนภดล มัณฑะจิตร กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นประธาน ซึ่งเป็นการหารือในรอบแรกของการกำหนดค่าเอฟทีในงวดสุดท้ายของปี ก่อนนำเสนอเรกูเลเตอร์ชุดใหญ่
• แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)4 ก.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ... ซึ่งกำหนดธุรกิจบริการที่ยกเว้นไม่อยู่ใน(21)ของบัญชีสามท้ายพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ. 2542 ให้ ครม.เห็นชอบ โดยธุรกิจบริการที่ได้รับยกเว้นให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจได้มี 18 รายการ
• คลังเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรอบใหม่เพิ่มความแข็งแกร่ง รับเออีซีปี 2558 หลังพบข้อมูลบริษัท ขนาดเล็ก 2.7 ล้านรายได้รับการสนับสนุน ไม่ตรงจุด ขณะเดียวกัน รับคำสั่งนายกรัฐมนตรีเดินหน้าตรวจสอบหาสาเหตุจำนวนลูกค้าเข้าข่ายพักหนี้ดีแบงก์ออมสินต่ำกว่าเป้ามาก
• แบงก์ชาติจับตาใกล้ชิดสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์ หลังความต้องการพุ่งกระฉูด โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นทุกประเภท คอนโดมิเนียมแชมป์เพิ่มขึ้น 5.7% ขณะที่การผลิตรถยนต์เพื่อขายในและนอกประเทศยอดทุบสุดประวัติการณ์ทำให้ยอดขอสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้นเกิดจากนโยบายรถคันแรก
• แบงก์คาด กนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% ในการประชุมวันพุธนี้ ระบุสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน แต่หากวิกฤตยุโรปรุนแรงเกินคาดก็มีแรงกดดันให้ลดดอกเบี้ยได้
• ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานดุลบัญชีเงินทุนและเงินทุนเคลื่อนย้ายในเดือน ก.ค.55 พบเงินทุนยังไหลเข้าสุทธิ 2,590 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.21 หมื่นล้านบาทหากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่ระดับ 31.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากการไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ จากการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองและสินเชื่อการค้าเป็นสำคัญ
• ธปท.รายงานภาวะภาคอสังหาริมทรัพย์เดือน ก.ค.ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยทุกประเภท โดยความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนจากจำนวนที่อยู่อาศัยใหม่ที่ได้รับสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 10.2% แบ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 16.7% และจากที่อยู่อาศัยแนวตั้ง เช่นคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 0.7%
• อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า หลังทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ให้รายงานงบลงทุนที่ก่อหนี้ผูกพัน แต่ทำไม่ทันภายในวันที่ 30 ส.ค.55 พบว่า มีวงเงินสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท โดยจะเสนอให้นายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พิจารณาตัดสินว่าโครงการใดควรยกเลิก เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการอื่นที่มีความพร้อมกว่า หรือโครงการใดจะให้ดำเนินการต่อโดยกันไว้เป็นงบเบิกเหลื่อมปี

*หุ้นเด่นวันนี้

• TRUE(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้าหลังรวม 3G ที่ 5.20 บาทผู้บริหารยอมรับการหาพันธมิตรธุรกิจเป็นเป้าหมายสำคัญในช่วงของการประมูล 3G มองเป็นปัจจัยบวกเพราะเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่จะทำให้ TRUE มีความแข็งแรงทางการธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
• STEC(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 19.50 บาท คาด 2H55 เซ็นสัญญางานใหม่อีกไม่น้อยกว่า 2 งาน มูลค่ารวมกว่า 23,500 ล้านบาท ทำให้ Backlog แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นกว่า 68,000 ล้านบาท นอกจากนี้มีงานที่เข้าร่วมประมูลแล้วและรอประกาศ รวมทั้งงานที่จะเข้าร่วมประมูล โอกาสได้งานใหม่สดใสและเป็นปัจจัยต่อยอดผลประกอบการให้แข็งแกร่งมากขึ้น ปรับประมาณการปี 55 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเชื่อว่าปีนี้จะเป็น New High และจะสูงขึ้นไปอีกในปี 56
• ITD(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ประกาศลดการถือหุ้นโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายในพม่าลงเหลือแค่ 25% จากที่ถือ 100% มองเป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน เพราะความกดดันด้านเงินลงทุนลดลง,วันที่ 5 ก.ย. รฟท.เปิดซองข้อเสนอราคารถไฟสายสีแดงสัญญา 2 ที่มี ITD กับ CK เป็นผู้ร่วมประมูลราคาเพียง 2 ราย ให้แนวรับ 3.34 บาท แนวต้าน 3.50 บาท