นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเชียพลัส(ASP)กล่าวว่า รายได้รวมของบริษัทในไตรมาส 3/55 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2/55 ที่มีรายได้รวมที่ 369 ล้านบาท จากปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ออกมามากขึ้น ประกอบกับ ภาพรวมของอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นด้วย ขณะที่บริษัทเดินหน้างานด้านวาณิชธนกิจ(IB)อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าในมือ 22 ดีล
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ASP จะมุ่งขยายธุรกิจ Equity derivatives ให้เติบโตขึ้น พร้อมทั้งเน้นงานวิจัยให้มากขึ้นและพัฒนาระบบไอทีต่างๆ รวมทั้งจะจัดหาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทจะเน้นเรื่องบุคลากรให้มากขึ้น รวมถึงจะจ้างคนอย่างต่อเนื่อง มองเป็นการวางรากฐานของบริษัทในระยะยาว และพัฒนาด้านอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับลูกค้าให้สามารถซื้อขายได้เองในเวลากลางคืน
นายก้องเกียรติ กล่าวถึงผลดีของการเกิดเอเชียนลิงเกจว่า ช่วงแรกๆ คงยังมีคำสั่งซื้อขายค่อนข้างน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้มากนัก ขณะที่มองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศน่าสนใจมากกว่า ขณะนี้ลูกค้าของบริษัทกว่า 80% นิยมไปลงทุนตลาดหุ้นอเมริกาที่มีทางเลือกมากกว่าในเอเชีย เพราะมีหุ้นคุณภาพดีและราคาถูก ขณะที่หลายประเทศ อาทิ จีน ประเทศแถบยุโรป และญี่ปุ่น ยังมีความเสี่ยงอยู่ ไม่ค่อยน่าลงทุนนัก