ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.5% แตะที่ 267.65 จุด ณ เวลา 12.10 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเหมืองแร่ หลังจากการหดตัวลงของดัชนีภาคการผลิตของจีนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ระดับ 49.2
รายงานของ CFLP ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวลดลง 0.9 จุด เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม และเป็นครั้งแรกที่ดัชนี PMI ลดลงต่ำว่าระดับ 50 จุด
การหดตัวลงของดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนได้ย้ำให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่นเดียวกับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณในเรื่องดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และหลังจากมีรายงานว่าดัชนีภาคการผลิตในยุโรปหดตัวลง
ขณะที่ในวันนี้ มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนขยับขึ้นแตะ 45.1 ในเดือนส.ค. จาก 44.0 ในเดือนก.ค. แต่ต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 45.3
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในยูโรโซนร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 86.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 จากระดับ 87.9 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่บรรดาผู้นำยูโรโซนกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการควบคุมวิกฤตหนี้และภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในภูมิภาค
หุ้นกลุ่มทรัพยากรดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดตัวขึ้น 2% หุ้นโบลิเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงของโบลิเวีย พุ่งขึ้น 2.9% และหุ้นคาซัคมิส ปรับตัวขึ้น 2.9%
หุ้นโนเกีย ดีดตัวขึ้น 4.6% อย่างไรก็ตามหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ร่วงลง 2.5% หลังจากดอยช์แบงก์ แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นดังกลาว โดยระบุว่าเออาร์เอ็มอาจจะเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด