(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบ สลับขายทำกำไร รอปัจจัยบวกใหม่หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 4, 2012 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีแรงขายทำกำไรสลับกันไปในระยะสั้น เหตุจากดัชนีตอบรับในทางบวก หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ได้แถลงสุนทรพจน์แล้ว

จากเมื่อวานนี้จะเห็นว่าเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 1,240 จุด จะเริ่มมีการ take profit ให้เห็น และดัชนีก็ไม่สามารถปิดระดับสูงสุดของวันได้ โดยลดลงมาปิดที่ 1,235 จุด สะท้อนให้เห็นว่าช่วง 1,240-1,248 เป็นจุดที่มีอทธิพลกดดันตลาดรวมอยู่ และอาจมีผลกระทบต่อราคาหุ้นทั่วไปในระยะสั้นได้

"หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยหนุน ช่วงนี้น่าจะต้องมีแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หรือไม่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะมีปัจจัยหนุนที่จะสามารถทำให้ฝ่าไปได้ ถ้าไม่มีคิดว่าคงฝ่าไปไม่สำเร็จ" นายปริญทร์กล่าว

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,230-1,240 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดทำการในวันที่ 3 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 4.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 18.28 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.07 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.46 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(3 ก.ย.)ที่ระดับ 1,235.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด(+0.65%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 850.11 ล้านบาทเมื่อ 3 ก.ย.55
  • ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค ปิดทำการในวันที่ 3 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(3 ก.ย.)ปิดทำการที่ 9.0 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.16/18 แข็งค่าตามยูโร
  • พาณิชย์วาง 3 สมมติฐาน เป้าหมายส่งออกปี 2555 ใหม่ ขยายตัว 5% เป็นไปได้มากสุด ขณะที่โอกาสขยายตัว 7% และ 9% ต้องเร่งผลักดันส่งออกช่วง 5 เดือนที่เหลือมูลค่า 2.1-2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ภาคเอกชนยันส่งออกผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว หลังรับออเดอร์ล่วงหน้าถึงปลายปียังชะลอตัว
  • ผู้ส่งออกเซ็งถกรื้อเป้าพาณิชย์ เผยคุยเรื่องเดิมสุดกลวง ชี้คำสั่งซื้อปีนี้ปิดยอดแล้วพาณิชย์รับพลาดเป้า แต่ไม่ต่ำ 5%, แม้รัฐบาลจะยอมรับว่าการส่งออกปีนี้คงเพิ่มไม่ได้ 15% ตามเป้าที่ตั้งไว้ และได้ลดเป้าลงมาเหลือเติบโต 9% ซึ่งนับว่ายังสูงอยู่ ขณะที่หน่วยงานอย่างกระทรวงพาณิชย์ก็เตรียมปรับตัวเลขส่งออกลง โดยเรียก 7 กลุ่มสินค้าส่งออกหลักเข้าหารือว่าจะปรับลดลงมาเหลือเท่าไหร่ เรื่องนี้ทางเอกชนที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นไปในทิศเดียวกันว่าคงไม่ได้ประโยชน์มาก เพราะคำสั่งซื้อของปีนี้จากต่างประเทศเข้ามาเกือบหมดแล้ว รัฐควรไปวางแผนส่งออกปีหน้านอกจากนี้การประชุมภาครัฐยังคงพูดถึงปัญหาเดิมๆ
  • นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) หรือตัวสะท้อนสินค้าแพงเดือน ส.ค. 2555 เท่ากับ 116.28 สูงขึ้น 2.69% เทียบกับเดือน ส.ค.2554 และสูงขึ้น 0.4% เทียบกับเดือน ก.ค. 2555 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) สูงขึ้น 2.89% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
  • แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่ากาประชุมคณะรัฐมนมตรี(ครม.) วันที่ 4 ก.ย. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จะเสนอร่างกฏกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. ... ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติเพื่อเปิดให้คนต่างด้าวเข้ามาทำธุรกิจในไทยโดยไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว 18 รายการ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง กำกับดูแลกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 4 ก.ย.นี้ หาก ครม.เห็นชอบ ผู้ประกอบการจะมีเวลาการปรับตัวนาน 3 ปี
  • แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กนง.ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับ 3% ต่อไป เพราะข้อมูลเศรษฐกิจในขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้ในระดับที่ดี แต่ในระยะข้างหน้าไม่แน่ เนื่องจากถูกกระทบและถูกบั่นทอนจากเศรษฐกิจโลกและวิกฤตยูโรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเห็นได้จากการส่งออกที่ของไทยที่ถูกฉุดลงค่อนข้างมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยที่มองไปในระยะข้างหน้าเหนื่อยพอสมควร

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SVI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 4.80 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2H55 ของ SVI โดยปัจจุบันกำลังการผลิตเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติแล้วที่ 80% และคาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 100% ได้ในปี 2556 จากคำสั่งซื้อของลูกค้าใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 6 ราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบกำลังการผลิต และขั้นตอนเสนอราคา พร้อมคาดว่ากำไรปกติใน 2H55 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 1H55 และเติบโตโดดเด่น +50.1% yoy เป็น 776 ล้านบาท ในปี 2556 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่
  • BAY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 38.00 บาท คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q55 จะขยายตัวทั้ง yoy และ qoq และทำระดับสูงสุดใหม่ได้เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน จากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล และเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
  • PTT(โกลเบล็ก)"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 380 บาท มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PTT ใน 3Q55 โดยคาดว่ากำไรสุทธิที่หดตัวแรงใน 2Q55 จะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ใน 3Q55 โดยมีแรงหนุนมาจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม(โรงกลั่นและปิโตรฯ) พลิกมีกำไรเนื่องจากไม่ต้องบันทึกขาดทุนในสต๊อกน้ำมันดิบ และคาดผลประกอบการของ PTTEP ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเนื่องจากกรายการพิเศษที่เกิดขึ้นใน 2Q55 จะไม่เกิดขึ้นอีกและยังได้แรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งบงกชใต้ซึ่งมีกำลังการผลิต 24,000 BOED จะทำการผลิตได้เต็มไตรมาส

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ