นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก(EASTW)คาดว่าปี 55 รายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุด โดยในแง่ของรายได้มาจากยอดขายน้ำที่สูงขึ้น ที่มีปริมาณเติบโต 8.5% และการปรับขึ้นค่าน้ำราว 10% ในช่วงเดือนมี.ค.55 จึงคาดว่ารายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 15% จากปีก่อน จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 8-9%
ขณะที่กำไรนั้นในช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้วในสัดส่วนราว 70% ของกำไรสุทธิในปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 1,008 ล้านบาท ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้เท่ากับครึ่งปีแรกที่อยู่ในระดับ 39.34% สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับราว 30.82% แม้ว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังไม่มีแผนปรับขึ้นค่าบริการน้ำอีก
นายประพันธ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมวางแผนลงทุนในระยะ 3 ปี เพื่อรองรับความต้องการน้ำดิบและน้ำประปาในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยประเมินว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าความต้องการน้ำในพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 460-500 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 300 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี บนสมมติฐานการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก อาทิ นิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆด้วย และ โครงการของกลุ่มปตท. และ บมจ.ไออาร์พีซี
ส่วนงบลงทุนปีนี้อยู่ที่กว่า 3 พันล้านบาท โดยลงทุนสถานีสูบน้ำที่บางพระ จ.ชลบุรี เพื่อเก็บน้ำเพิ่มเป็น 2 แสนลบ.ม.ต่อวันจากเดิม 5 หมื่นลบ.ม.ต่อวัน และแหล่งน้ำดิบใหม่ ทับมา จ.ระยอง ใช้งบ 2.7 พันล้านบาท เนื้อที่ 500 ไร่ เก็บน้ำได้ 55 ล้านลบ.ม.ต่อปี คาดเฟสแรกเสร็จในปี 57 ที่มีปริมาณน้ำ 22 ล้านลบ.ม. ต่อปี และอีก 2 ปีถัดมาเฟส 2 ก็จะสร้างเสร็จ
นายประพันธ์ กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้กันเงินจำนวน 70 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผันน้ำกรณีเกิดภัยแล้ง ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะผันน้ำจากอ่างประแสร์ จ.ชลบุรี ไปคลองใหญ่ จ.ระยอง อีก 40 ล้านลบ.ม. เนื่องจากขณะนี้อ่างเก็บน้ำใน จ.ระยองของบริษัททั้ง 3 แห่ง มีน้ำเหลืออยู่ 122 ล้าน ลบ.ม.หรือเพียง 44% ของความจุอ่าง ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
"ค่าใช้จ่ายที่เตรียมไว้ 70 ล้านบาทสำหรับกรณี worst case ไม่น่าจะกระทบผลประกอบการของบริษัท เพราะมีกำไรจากการปรับขึ้นค่าน้ำรองรับไว้อยู่แล้ว"นายประพันธ์ กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามฤดูมรสุมในช่วงเดือนก.ย.- ต.ค. ว่าจะมีน้ำฝนเข้าอ่างเก็บน้ำมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ มั่นใจว่าบริษัทจะมีปริมาณน้ำรองรับความต้องการของลูกค้าผ่านพ้นช่วงหน้าแล้งไปจนถึงปี 56 อย่างแน่นอน