โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะให้"ซื้อ"หุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS)มองทิศทางกำไรเติบโตแข็งแกร่งจากปริมาณผู้โดยสารที่ล่าสุดทำนิวไฮอีกครั้ง และคาดว่าอีก 1-2 เดือนจะทำนิวไฮต่อเนื่อง รวมทั้งมีแนวโน้มได้งานเดินรถส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงวงเวียนใหญ่-บางหว้าที่เพิ่มขึ้นมาอีก 4 สถานีในปี 55-56 อีกทั้งจะมีเส้นทางใหม่ต่อเชื่อมเข้าระบบรถไฟฟ้าเดิม
ขณะที่ บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย(VGI)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยิ่งทำให้มูลค่ากิจการ BTS สูงขึ้น เพราะแนวโน้มธุรกิจ VGI เติบโตและมีกำไรที่ดี อีกทั้งคาดว่า BTS จะมีกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ประมาณ 1.4-1.6 พันล้านบาท ซึ่งขึ้นกับราคา IPO และราคาที่เทรดในตลาด
อย่างไรก็ตาม การแปลงสภาพของหุ้นกู้ BTS ยังกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น โดยมีจำนวนหุ้นกู้แปลงสภาพเหลืออยู่ 8,378 ล้านบาท หากแปลงเป็นหุ้นสามัญจะคิดเป็นสัดส่วน 17% ของหุ้นทั้งหมด ทำให้โบรกเกอร์บางรายแนะนำให้ดูปัจจัยทางเทคนิคประกอบด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.บัวหลวง ซื้อ 7.20 บล.เอเชียพลัส ซื้อ 6.40 บล.ธนชาต ซื้อ 6.30 บล.ดีบีเอสวิคเกอร์ส ซื้อ 6.24 บล.ฟิลลิป ถือ 5.70
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า พื้นฐานธุรกิจของ BTS มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณผู้โดยสารที่มากขึ้น และ มูลค่า BTS จะเพิ่มขึ้นหลังจากบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย(VGI)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ในเดือน ก.ค.55 กลับมาขึ้นสูงสุดอีกครั้งที่จำนวน 16.7 ล้านเที่ยวคน/เดือน เติบโต 17% จาก ก.ค.54 และโต 6% จากมิ.ย.55 ซึ่ง BTS เคยทำได้สูงสุดในเดือนมี.ค.55 ที่ 16.79 ล้านเที่ยวคน/เดือน หากนับเฉพาะวันทำการปรากฎว่าจำนวนผู้โดเยสารสูงเป็น 12.8 ล้านเที่ยว/เดือน ทำนิวไฮจากเดือน มี.ค.55 ที่มีตัวเลข 12.6 ล้านเที่ยวคน/เดือน
"คาดว่าอีก 1-2 เดือน จำนวนผู้โดยสารจะทำ high record ทั้งปีเราคาดว่าน่าจะโต 17% หรือ 206 ล้านเที่ยวคน โต 17% จากปีก่อนที่มี 176 ล้านเที่ยวคน(สิ้น มี.ค.55)"นายสมบัติ กล่าว
นอกจากนี้ ธุรกิจเดินรถไฟฟ้าจะได้เดินรถในส่วนต่อขยายอีก 4 สถานีที่ต่อจากวงเวียนใหญ่ไปบางหว้า โดย 2 สถานีจะเปิดให้บริการปลายปี 55 และอีก 2 สถานีเปิดให้บริการปลายปี 56
รวมทั้ง BTS จะได้กำไรจากการขายหุ้น VGI และทำให้มูลค่าหุ้น BTS สูงขึ้น เพราะ BTS เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ ต้องรอราคา IPO และราคาซื้อขายได้ตลาด
อย่างไรก็ตาม การแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพมาเป็นหุ้นสามัญในช่วงนี้ กดดันราคา BTS ในตลาด โดยราคาแปลงสภาพอยู่ที่ 5.12 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด(4 ก.ย.) อยู่ที่ 5.35 บาท โดย BTS ยังเหลือหุ้นกู้แปลงสภาพอยู่อีก 8,378 ล้านบาท อายุ 5 ปี เริ่มจากปี 53 หากมีการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจะคิดเป็นจำนวน 1,636.3 ล้านหุ้น หรือ 17% ของหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ 9,466.5 ล้านหุ้น
ด้านนายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารเติบโตขึ้น และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่หลายสายเข้ามาเชื่อมต่อในระบบยิ่งทำให้จำนวนผู้โดยสารของ BTS เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่ VGI เมื่อเข้าตลาดหุ้นแล้วจะยิ่งทำให้ BTS มีมูลค่าเพิ่ม และเบื้องต้นคาดว่า BTS จะมีกำไรจากการขายหุ้น VGI ประมาณ 1.4-1.6 พันล้านบาท รวมทั้ง VGI มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านคือ สื่อรถไฟฟ้า และ สื่อโมเดิร์นเทรด เป็นสื่อที่เจาะเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย และมีฐานเงินโฆษณาที่ต่ำมาก
แต่ก็ยอมรับว่า การแปลงสภาพของหุ้นกู้ BTS จะกดดันราคาตลาดระยะสั้น โดยวันนี้(5 ก.ย.)มีลูกหุ้นของ BTS เข้ามาอีก
ส่วนนายวิกิจ ธิรวณรัตน์ ผู้จัดการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า หากมองปัจจัยพื้นฐาน BTS น่าซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท เพราะมีกำไรเติบโตดีขึ้น และจะรับรู้กำไรจากการขายหุ้น VGI อย่างมีนัยสำคัญ
แต่ในเชิงกลยุทธ์แนะแค่"ถือ"เพราะปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ราคาหุ้นปรับลงจากทั้ง sale on fact โดยราคาได้รับรู้ข่าวดีไปก่อนหน้านั้นแล้ว และได้รับปัจจัยกดดันจากลูกหุ้นที่เข้ามาต่อเนื่องจากการแปลงสภาพของหุ้นกู้ เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าในกระดาน
"หุ้นเล่นยาก ขึ้นมาดีๆ เดี๋ยวก็ลง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คนก็ยังขึ้นรถไฟฟ้าอยู่ ...ถ้าราคาเกาะ 5.30 บาท ให้ถือต่อ แต่ถ้าหลุดให้ขาย stop loss แล้วลงมาเล่นเก็งกำไรที่ระดับ 5.10 บาทที่เป็นแนวรับ คิดว่าราคาเด้งไปมาช่วง 5.30 -5.70 บาท"นายวิกิจ กล่าว