นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ทีโอที กล่าววว่า ขณะนี้ ทีโอที อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาการดำเนินการโครงการ 3จี ที่ล่าช้าไป โดยจะเร่งดำเนินการเฟส 2 ทันทีและเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยกับเฟสแรก โดยเฉพาะการจัดหาพื้นที่ในการติดตั้งสถานีฐานนั้น ในเฟส 2 ทีโอทีจะขอความร่วมมือกับทุกกระทรวงเพื่อขอเช่าพื้นที่ของหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งโรงพยาบาล สถานีอนามัย
"วันนี้เราเอาจุดอ่อนของภาครัฐมาเป็นจุดแข็ง และเราก็ใช้ที่ของราชการจัดระบบแล้วมีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมให้บอร์ดทั้งหมดไปปรับแผนในเฟส 2 เพื่อใช้พื้นที่ของข้าราชการเป็นหลัก ถือเป็นการสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ให้กับทีโอทีด้วย ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่ล่าช้าเหมือนเฟสแรกแน่นอน"นายพันธ์เทพ กล่าว
สำหรับการดำเนินการในเฟส 2 ซึ่งจะเป็นการใช้โครงข่ายร่วมระหว่าง 3จี กับ 4จี (LTE) จำนวน 15,000-18,000 สถานีฐานนั้น ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติในหลักการแล้วและอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการเพื่อของบประมาณไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อให้สามารถเปิดบริการ 3จี ควบคู่ไปกับการให้บริการ 4จี ในความเร็ว 100 เมกะบิต/วินาที โดยมั่นใจว่าจะไม่ล่าช้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา
ปัจจุบัน คณะทำงาน 3 จี สามารถหาสถานีฐานที่จะติดตั้งสถานีฐานในเฟสแรกครบทั้ง 5,320 แห่งทั่วประเทศแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ อีกทั้งมั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการ 3จี ทั่วประเทศได้ทันตามกำหนดในเดือน ต.ค.55 หลังจากที่ต้องเลื่อนการเปิดให้บริการตามกำหนดในเดือน พ.ค.55 ที่ผ่านมา เนื่องจากติดปัญหาน้ำท่วม
ส่วนกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวตำหนิการทำงานของทีโอที เพราะไม่พึงพอใจการบริหารจัดการที่มีความล่าช้าโดยเฉพาะโครงการ 3จีทั่วประเทศนั้น นายพันธ์เทพ กล่าวว่า ส่วนตัวยอมรับว่าโครงการ 3จี ของทีโอทีมีความล่าช้าจริง โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอีกสาเหตุหลักคือ ทีโอทีไม่เคยลงทุนทำโครงการเป็นหมื่นล้านบาทแบบนี้มาก่อน ภายใต้เงื่อนไขที่ถูกกำหนดมาทุกอย่างจึงทำให้ทุกอย่างเหมือนต้องเรียนรู้ใหม่
อย่างไรก็ตาม ทีโอที ต้องใช้งบประมาณหลักหมื่นล้านบาท และเป็นวงเงินที่ต้องกู้มาลงทุน เพราะฉะนั้นต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าหน่วยงานอื่นทันที ซึ่งกว่าจะผ่านขั้นตอนแต่ละอย่างก็ติดปัญหาตามระเบียบการบริหารจัดการด้วย