บมจ.เอสทีพีไอ(STPI)คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 56 จากงานในมือ(backlog)ที่สูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาทแล้วในขณะนี้ ซึ่งมีกำหนดรับรู้รายได้ในปีหน้าราว 8 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทยังมีโอกาสจะได้รับงานใหม่เข้ามาอีกมากหลังจากประสบความสำเร็จในการรับงาน Ichthys ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นในการรับงานใหม่จะต้องไม่ต่ำกว่า 23-25%
นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ ผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจ STPI กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะมาจากการรับรู้รายได้ backlog ที่มีอยู่ 2.52 หมื่นล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการงาน Ichthys Onshore LNG Module ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ราว 5% ของมูลค่างานทั้งหมด 2.6 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนอีก 20-30% จะทยอยรับรู้ฯในปีหน้า และที่เหลือจะรับรู้ฯ ในช่วงปี 57-58
ดังนั้น บริษัทจึงคาดว่าปี 56 ทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากงาน Ichthys 6,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นงาน Module ของต่างประเทศ
"ครึ่งหลังปี 55 คาดรายได้ไม่ต่ำกว่าครี่งแรก จากการรับรู้งานควีนส์แลนด์ และ Ichthys บางส่วน"นางอนิลรัตน์ กล่าว
สำหรับการรับงานของบริษัทจากนี้เป็นต้นไปตั้งเป้ามีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 23-25% ซึ่งงานปัจจุบันที่รับมาแล้วก็มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าระดับดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะบริษัทได้ทำสัญญาล็อกความเสี่ยงค่าเงินและวัตถุดิบไว้หมดแล้ว ทั้งนี้ บริษัทมองว่าดีมานด์งานด้านแก๊สยังสูงกว่าซัพพลาย โดยตลาดมีขนาดใหญ่มากจนไม่ต้องมีใครมาแข่งขัน ทำให้โอกาสที่บริษัทจะได้รับงานในอนาคตจึงมีค่อนข้างสูง เช่น งาน Modul LNG ในออสเตรเลีย รัสเซีย อลาสก้า และทั่วโลก
ส่วนกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวขึ้นมาสูงอย่างต่อเนื่อง น่าจะมาจาก backlog สูงที่จะรองรับรายได้ในอนาคต อัตรากำไรยังอยู่ในระดับที่ดี และไม่มี downside ของธุรกิจ เพราะได้ปิดความเสี่ยงไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย โดยครึ่งปีหลังรายได้คงจะไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่ทำได้ 1.27 พันล้านบาท
"บริษัทมองไม่เห็น Downside อะไรแล้ว จากงานในมือที่มีอยู่จำนวนมากและมาร์จิ้นที่ดีกว่างานเดิมที่เคยรับ ความเสี่ยงก็ปิดไปหมดแล้ว และปี 57 ซึ่งจะรับรู้รายได้งานที่ออสเตรเลียเยอะสุด ก็จะทำให้รายได้เติบโตกว่าปี 56"นางอนิลรัตน์ กล่าว