บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ (MILL) คาดว่าในปี 55 อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับขึ้นมาเป็น 8-9% จากปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 4-5% ส่วนรายได้เชื่อมั่นว่าทะลุเป้าหมายที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และเข้าใกล้ระดับ 2 หมืนล้านบาท โดยคาดว่าราคาบิลเล็ตในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 590 เหรียญ/ตัน และคาดว่าราคาจะทรงตัวไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ราคาเหล็กในไตรมาส 3/55 อ่อนตัวลง และคาดว่าจะปรับขึ้นในไตรมาส 4/55 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับเหมาในพม่าเพื่อหาช่องทางในการขายสินค้าให้กับโครงการสาธารณูปการต่าง ๆ ในพม่า หลังจากที่ได้เข้าไปเปิดตลาดในกัมพูชาและลาวแล้ว ส่วนการร่วมมือกับ บมจ.อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย(TSSI)การผลิตเหล็กลวดคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ หลังบริษัทเพิ่งเข้าซื้อกิจการ คาดว่าจะใช้เม็ดเงินราว 3 พันล้านบาท
นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ MILL กล่าวว่า รายได้รวมในไตรมาส 3/55 จะใกล้เคียงไตรมาส 2/55 จากปกติจะมีรายได้น้อยกว่า แต่ในปีนี้มีรายได้จากออร์เดอร์ที่เข้ามาค่อนข้างมาก
บริษัทจึงมั่นใจรายได้ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และยังมองว่ามีโอกาสที่รายได้รวมอาจจะเกินเป้าหมายและเข้าใกล้ 2 หมื่นล้านบาทได้ ซึ่งเติบโต 10-15% จากปี 54 ที่มีรายได้รวม 1.5 หมื่นล้านบาท จากยอดขายเหล็กที่สูงขึ้นรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดง รวมถึงรายได้จากตลาดต่างประเทศทั้งลาว และกัมพูชา ขณะที่บริษัทจะเจรจาคุยกับผู้รับเหมาในพม่าเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจจากโครงการด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ในพม่า
นายสิทธิชัย ยังเปิดเผยว่า อัตรากำไรขั้นต้นปี 55 คาดว่าจะอยู่ที่ 8-9 % ใกล้เคียงกับ EBITDA margin จากปี 54 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 4-5 % เป็นผลจากโครงการ Green MILL ที่ช่วยให้ทั้งรายได้และกำไรปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น
สำหรับแนวโน้มราคาเหล็กในครึ่งปีหลังจะยังผันผวนอยู่จากวิกฤตยุโรปที่มีผลทางจิตวิทยาต่อการลงทุนในด้านต่าง ๆ โดยคาดว่าช่วงไตรมาส 3/55 ราคาเหล็กจะอ่อนตัวลง มองว่าราคาเหล็กบิลเล็ทในช่วงครึ่งปีหลังจะมาอยู่ที่ 580 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 630 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาเฉลี่ยทั้งปี 55 คาดว่าจะอยู่ที่ 590 เหรียญสหรัฐ/ตัน และจะทรงตัวต่อเนื่องไปถึงปี 56
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนยอดขายเหล็กในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% คาดว่าปริมาณขายเหล็กในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9 แสนตัน จากปี 54 ที่มียอดขาย 8 แสนตัน ขณะที่บริษัทคาดว่าจะสรุปแผนการผลิตลวดเหล็กร่วมกับบมจ.อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย(TSSI) ซึ่งมีงบประมาณ 3 พันล้านบาท มาจากเงินกู้ 1 พันล้านบาท และเงินทุนอีก 2 พันล้านบาท คาดว่าจะเจรจาเสร็จสิ้นภายในปีนี้