(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบ-ผันผวน นลท.รอลุ้นผลประชุม ECB คืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 6, 2012 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ คาดว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบๆ ระหว่างวันอาจสลับอยู่ในแดนบวกและแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนรอลุ้นผลการประชุม ECB ในคืนวันนี้

สำนักวิจัยทิสโก้ คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาเป็น 0.50% รวมทั้งคาดว่าจะได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการเข้าซื้อพันธบัตรประเทศที่มีปัญหา

ให้แนวรับที่ 1,227 - 1,230 จุด แนวต้านที่ 1,240 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,047.48 จุด บวก 11.54 จุด(+0.09%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,403.44 จุด ลดลง 1.50 จุด(-0.11%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,069.27 จุด ลดลง 5.79 จุด(-0.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 10.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 43.14 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.90 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 7.42 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 6.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(5 ก.ย.)ที่ระดับ 1,233.84 จุด ลดลง 2.47 จุด(-0.20%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 188.86 ล้านบาทเมื่อ 5 ก.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 95.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.06 ดอลลาร์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(5 ก.ย.)ปิดทำการที่ 7.72 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.20/29 แนวโน้มทรงตัว รอผลประชุม ECB คืนนี้
  • เอกชนชี้เอสเอ็มอีกระทบหนักจากขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ เชื่อย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน-ปิดกิจการเพิ่มขึ้นในปีหน้า จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ด้านบอร์ดค่าจ้างอ้างเหตุปรับทั่วประเทศ ยกข้อมูลจากปรับค่าแรง 7 จังหวัด กทม.-หัวเมืองใหญ่ เอสเอ็มอีปรับตัวได้ ไม่กระทบเศรษฐกิจ
  • กนง.ผวาสินเชื่อขยายตัวร้อนแรง คงดอกเบี้ย 3% หวั่นปรับลดยิ่งกระตุ้นการบริโภคมากขึ้น แม้เห็นพ้องลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจรับวิกฤติเศรษฐกิจโลกชะลอ ขณะ "โฆสิต" เตือนก่อนหนี้ช่วงเศรษฐกิจขาลง
  • สรรพากรคาดยอดจัดเก็บรายได้ปีนี้ต่ำเป้าครั้งแรกในรอบ 2 ปี เหตุลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% สิทธิบีโอไออุดหนุนพลังงานและสำรองแบงก์ สูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่น้ำท่วมปีที่แล้ว ยังส่งผลกระทบหนักต่อรายได้ภาษีนิติบุคคล
  • ตลาดเตรียมพร้อมเชื่อมโยงกระดาน ซื้อขายหุ้นอาเซียนเดือนต.ค. นี้ หลังเริ่มใช้ระบบซื้อขายหุ้นใหม่เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา เน้นเพิ่มโอกาสลงทุนในไทย เพื่อนำเสนอศักยภาพตลาดหุ้น-ความแข็งแกร่ง บจ.ไทยต่อผู้ลงทุนมาเลเซีย-สิงคโปร์ ด้านโบรกเกอร์คาดหุ้นไทยสิ้นปีไม่สดใส มองดัชนีอยู่ที่ 1,280 จุด เหตุปัญหาหนี้ยุโรปและการชะลอตัวภาคส่งออกเป็นความเสี่ยง เผยหุ้นที่อิงตลาดในประเทศยังเนื้อหอม โดยเฉพาะโรงพยาบาล-โรงแรม เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน
  • เช่าซื้อยันคงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี หลัง กนง.คง ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% ทำให้สงครามหั่นดอกเบี้ยไม่เกิด ทุกค่ายหันแข่งด้านบริการแทน กับปรับตัวรับจำนำทะเบียนรถ ทิสโก้พร้อมปรับพอร์ตเป็น 20% ด้านกสิกรลีสซิ่งซุ่มพัฒนาสินเชื่อดังกล่าว เตรียมร่วมวงชิงมาร์เก็ตแชร์เช่นกัน
  • รมว.พลังงาน เผยว่า มีแนวคิดในการทบทวนการกำหนดราคาดีเซลที่เหมาะสม เพื่อให้สะท้อนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้ตัวเลขดีเซลลิตรละ 30 บาท เป็นราคาอ้างอิง เพื่อคำนวณต้นทุนสินค้าและขนส่งมาเป็นเวลานาน โดยจะเชิญนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ความเห็นซึ่งผลที่ออกมาอาจได้ตัวเลขที่ต่ำหรือมากกว่าลิตรละ 30 บาทก็ได้
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานตัวเลขการส่งออกให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)เศรษฐกิจที่มีนายกิตติรัตน์ ณระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน รับทราบว่าการส่งออกของไทยในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ 5% 7% และ 9% โดยหากทุกหน่วยงานผลักดันมาตรการภาษีที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติไปหลายมาตรการ จะทำให้การส่งออกฟื้นตัวได้พอสมควร
  • เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม องค์การความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เผยรายงานผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ 144 ประเทศทั่วโลกฉบับปี 2554-2555 พบว่า ไทยอยู่ในลำดับที่ 38 โดยได้คะแนนที่ 4.52 จุด จากคะแนนเต็ม 7 จุด ซึ่งการจัดอันดับในครั้งนี้ ดีขึ้นจากการจัดอันดับในปีที่แล้วซึ่งอยู่ในลำดับที่ 39
  • อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยยอดการขอใช้สิทธิรถยนต์คันแรกล่าสุดมีจำนวนมากถึง 1.8 แสนคัน จากช่วง2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่มียอดผู้ขอใช้สิทธิแค่ 1.4 แสนคัน เฉลี่ยแล้วมีผู้ขอใช้สิทธิใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาสัปดาห์ละ 2 หมื่นคันซึ่งถือว่าเป็นยอดที่ขอใช้สิทธิเพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
  • TVO (เคทีบี) "เก็งกำไร" ภาวะราคากากถั่วเหลืองในตลาดโลกที่ยังทำจุดสูงสุดใหม่ในปัจจุบัน จากภาวะแห้งแล้งในอเมริกาที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี จะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของ TVO ในช่วงที่เหลือของปี
  • DTAC (ธนชาต) "ซื้อ" กสทช. สั่งปรับ DTAC 10 ลบ. กรณีโครงข่ายล่ม ค่าปรับวงเงิน 10 ลบ. ถือว่ามีขนาดค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ EBITDA รายไตรมาสของ DTAC ราว 6-7 พันลบ. และกำไรสุทธิ 2-3 พันลบ.ต่อไตรมาส ทั้งค่าปรับและสิทธิประโยชน์ที่ DTAC มอบให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบน่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเงินชดเชยรวม 320 ลบ. ที่ DTAC ได้จ่ายไปตั้งแต่ไตรมาส 4Q11-2Q12 ดังนั้น ยังคงมุมมองเดิมเกี่ยวกับการกลับมาเติบโตอีกครั้งของ DTAC และคาดกำไรเติบโต 9% y-y ในช่วง 2H12
  • NWR (เอเซีย พลัส) "ซื้อ" พื้นฐานทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ น่าจะทำให้ NWR กลับมาทำกำไรได้อย่างมีเสถียรภาพอีกครั้ง บวกกับประเด็นเก็งกำไรจากรายการพิเศษข้างต้น
  • AOT (ธนชาต) "ซื้อ" สองกรณีพิพาทกับ ITO ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของ ITD ผลกระทบดังกล่าวค่อนข้างมีจำกัดต่อ AOT เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างของสนามบินสุวรรณภูมิสามารถบันทึกเป็นสินทรัพย์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถเจรจาตกลงได้ กรณีพิพาทดังกล่าวอาจมีการนำเข้าสู่กระบวนการชั้นศาลและอาจใช้เวลาหลายปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ