ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ปิดที่ระดับ 1,241.73 จุด เพิ่มขึ้น 7.89 จุด(+0.64) มูลค่าการซื้อขาย 11,999.78 ล้านบาท โดยดัชนีช่วงเช้าอยู่ในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาด โดยปรับขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,242.24 จุด และต่ำสุดที่ 1,237.23 จุด
นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังจากเรื่องเดิม กล่าวคือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งต้องรอผลประชุมในคืนนี้ (6 ก.ย.) ซึ่งมีโอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่เป็นกลุ่มที่ outperform รวมทั้งมีการเลือกลงทุนหุ้นรายตัว ที่เกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องระวังหลังการประชุม ECB อาจมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่คาดว่าจะไม่มีปัจจัยลบอะไร ตลาดอาจปรับฐานไม่แรง และในสัปดาห์หน้ารอผลการประชุม FED ในวันที่ 12-13 ก.ย.
"ตลาดอาจผันผวนได้ เพราะบนความคาดหวังแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน"
กลยุทธ์การลงทุน แนะให้ซื้อเมื่อบวกขึ้นมา แต่ถ้าคนที่มีหุ้นอยู่แล้ว หากดัชนียังไม่หลุด 1,230 จุดก็ถือต่อไปได้ แต่หากหลุดระดับดังกล่าวต้องขายออกไป ในช่วงบ่ายยังต้องติดตามตลาดหุ้นยุโรปที่จะเปิดตลาดในช่วงบ่าย
พร้อมให้แนวต้านที่ 1,240-1,250 จุด แนวรับที่ 1,230 จุดซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 882.85 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 859.83 ล้านบาท ปิดที่ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 843.40 ล้านบาท ปิดที่ 4.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 274.13 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 235.94 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท