นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวขึ้นและมีโอกาสสูงที่จะทะลุแนวต้านที่ 1,248 จุด จากแรงหนุนเรื่องผลการประชุมอีซีบีที่ชัดเจนแล้วว่าอีซีบีมีโครงการซื้อพันธบัตรของประเทศต่างๆในยูโรโซน โดยเป็นการซื้อแบบไม่จำกัดจำนวน
ซึ่งปัจจัยบวกนี้ตอบสนองไปยังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,248 จุด และ 1,245 จุด ส่วนแนวต้าน 1,255-1,260 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,292.00 จุด เพิ่มขึ้น 244.52 จุด(+1.87%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,432.12 จุด เพิ่มขึ้น 28.68 จุด(+2.04%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,135.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.55 จุด(+2.17%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 140.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 11.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 328.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 107.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 37.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23.33 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.98 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 15.60 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(6 ก.ย.)ที่ระดับ 1,243.92 จุด เพิ่มขึ้น 10.08 จุด(+0.82%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 135.54 ล้านบาทเมื่อ 6 ก.ย.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 95.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(6 ก.ย.)ปิดทำการที่ 8.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.21/23 อ่อนค่าเล็กน้อย คาดวันนี้แกว่งกรอบแคบ
- คนไทยหนี้ท่วมตัวธปท.ห่วงสินเชื่อส่วนบุคคลรถยนต์บ้าน หนี้เสียส่อเค้าเพิ่มขึ้น, นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท.จับตาการขยายตัวของสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล รถยนต์ และบ้าน
- นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยหลังการประชุมพิจารณาการประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตร การปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บในเดือน ก.ย.-ธ.ค.2555 ว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าในปี2556 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากภาระสะสมการชดเชยค่าเอฟทีในรอบปี 2555 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ต้องเกลี่ยทยอยจ่ายคืนรวม 1.05 หมื่นล้านบาท โดยจะนำไปเฉลี่ยปรับขึ้นค่าเอฟทีรอบละ 6.55 สต./หน่วย
- "ธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย"ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การท่องเที่ยว วุฒิสภา กล่าวในการเสวนาเรื่อง"การท่องเที่ยวไทยยั่งยืนหรือยับเยิน" ว่า จากเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็น 2 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน ภายใน 3 ปีหรือในปี 2558 นั้น กมธ.เห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีทิศทางและนโยบายที่ชัดเจน ขาดงบประมาณเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งระบบ และยังขาดการดึงชุมชนท้องถิ่นมามีส่วนร่วม
- ห้ามส่งออกยาง 10% เอกชนร้องรัฐบาลต้องรับซื้อทั้งหมด คาดหายไป 5,000 ตันต่อเดือน, นายชัยพจน์ เรืองวรุณวัฒนา ผู้บริหารบริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา ผู้ส่งออกยางรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า การเจรจาปัญหาราคายางพาราตกต่ำ 3 ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไม่มั่นใจว่าจะทำให้ราคาขยับขึ้นหรือไม่
- แบงก์ชาติยันสินเชื่อโตมีพื้นฐานรองรับ ย้ำไม่ร้อนแรงเกิน ชี้บางส่วนเป็นผลจากมาตรการภาครัฐ-ซอฟท์โลนน้ำท่วม ระบุความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อไม่ได้หย่อนลงจากเดิม พร้อมใช้มาตรการดูแลเพิ่ม ประเมินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ "ธ.ก.ส.-ออมสิน" ทำผลงานดีสุด
- กระทรวงการคลังเดินหน้าจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม เตรียมกำหนดอัตราภาษีที่จะจัดเก็บเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อัตราภาษีผลิตภัณฑ์ค่าธรรมเนียมที่ปล่อยมลพิษ รวมถึงการซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยมลพิษ พร้อมปรับโครงสร้างภาษีรถประหยัดพลังงาน
*หุ้นเด่นวันนี้
- BAY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะนำตลาดในวันนี้ หลัง ECB ประกาศโครงการซื้อพันธบัตรยุโรปแบบไม่จำกัดจำนวน หรือ Outright Monetary Transactions (OMTs) และคาดว่าจะส่งผลให้ต้นทุนการเงินของประเทศยุโรปที่มีปัญหาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐเมื่อคืนนี้ +1.8% พร้อมประเมินเบื้องต้น คาดว่า BAY จะมีกำไรสุทธิ 3Q55 ขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร พร้อมให้ราคาเหมาะสม 38.00 บาท
- PJW(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ประเมิน PJW ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ เป็น 1 ในหุ้น ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากดีมานด์รถยนต์ในประเทศที่จะเติบโตต่อเนื่องจนถึงปี 2556 จากการขยายอายุโครงการ "รถยนต์คันแรก" เป็นส่งมอบภายได้ภายในปี 2556 พร้อมคาด PJW จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง โดย +34% yoy เป็น 194 ล้านบาท ในปี 2555 และ +21% yoy เป็น 235 ล้านบาท ในปี 2556 พร้อมให้ราคาเหมาะสมเบื้องต้นปี 2556 ที่ 7.24 บาท
- DRT (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป็นทั้งหุ้น Growth และ High dividend yield (ประมาณ 6-7% ต่อปี) โดยคาดกำไรปกติปีนี้ที่ 563 ล้านบาท +23% Y-Y จากสายการผลิตใหม่ NT10 ที่เริ่มเดินเครื่องตั้งแต่ ก.ค. ที่ผ่านมา ปัจจุบันผลิตถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ขณะที่ปี 2013 จะได้ประโยชน์จากกำลังการผลิต NT10 เต็มปี และมีสินค้าใหม่คือคอนกรีตมวลเบาเริ่มจำหน่ายใน 2Q13 จึงคาดว่ากำไรปกติจะโตต่อ 15.6% เป็น 650 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ SCC จะถือหุ้น GLOBAL 30-33% (DRT ขายสินค้าผ่าน GLOBAL ประมาณ 1-2% ของรายได้) มองเป็นบวกกับ DRT ที่จะเติบโตไปพร้อมกับการขยายสาขาของ GLOBAL เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 8 บาท