ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) ขานรับรายงานภาคการผลิตของอังกฤษที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 25 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,794.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด หรือ 0.30%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนก.ค.ทะยานขึ้น 2.9% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนับตั้งแต่เดือนก.พ.2530 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดือนก.ค.ปี 2554 การผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนแรงลง 0.8%
ส่วนผลผลิตในภาคการผลิตพุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นมากที่สุดนับแต่กลางปี 2545 แต่หากเทียบกับปีก่อน ผลผลิตภาคการผลิตลดลง 0.5%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 2%
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่าจีนประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน ด้วยการอนุมัติโครงการด้านการลงทุน 55 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน (1.577 แสนล้านดอลลาร์) โดยหุ้นเอ็กสตราต้า พุ่งขึ้น 3.6%