ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ย.) จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์
ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 272.3 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,519.05 จุด เพิ่มขึ้น 9.17 จุด หรือ 0.26% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,214.50 จุด เพิ่มขึ้น 47.17 จุด หรือ 0.66% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,794.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด หรือ 0.30%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐอาจทำให้เฟดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในเร็วๆนี้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่ามา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวจีนประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน ด้วยการอนุมัติโครงการด้านการลงทุน 55 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน (1.577 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างทางหลวง ท่าเรือ และทางรถไฟทั่วประเทศ
เว็บไซต์ของสำนักงานเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) NDRC รายงานว่า จีนได้อนุมัติแผนการสร้างถนนซึ่งมีความยาว 2,018 กิโลเมตร (1,254 ไมล์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการดังกล่าวครอบคลุมถึงการสร้างทางหลวงในมณทลเจ้อเจียงและซินเจียง การสร้างโรงงานบำบัดขยะ 9 แห่ง ปรับปรุงโครงการผันน้ำ 2 โครงการ และโครงการท่าเรือและคลังสินค้า 5 โครงการ
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นดอยช์ แบงก์ และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้นกยว่า 5% ส่วนหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ของสเปน ดีดตัวขึ้น 1.7% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ เพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล ทะยานขึ้น 6.5%
หุ้นกลุ่มเหมือนแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 3.6% หุ้นเกล็นคอร์ ดีดตัวขึ้น 3.6% และหุ้นริโอทิน โต พุ่งขึ้น 6.2%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดส่งสัญญาณในระหว่างการกล่าวสุทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิงเมื่อวันวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อหนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนของสหรัฐ