นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นเล็กน้อยในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ว่าจะมีการออกมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาเพียง 96,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ 130,000 ตำแหน่ง
"ตลาดยังหวังเรื่องมาตรการตราบใดที่ยังไม่ถึงวันประชุม ก็คงจะมีการเก็งกำไรตรงนี้ จึงคิดว่าตลาดน่าจะเป็นบวกได้ แต่เรามองบวกไม่มาก เพราะว่าราคาหุ้นไทยไม่ถือว่าถูกแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะแพง ในแง่ของการประเมินมูลค่า ก็ยังต้องระมัดระวังอยู่เป็นช่วงของการเล่นสั้น" นายอภิชาติ กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,240-1,242 จุด แนวต้าน 1,255 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(7 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,306.64 จุด เพิ่มขึ้น 14.64 จุด(+0.11%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,437.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด(+0.41%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,136.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.61 จุด(+0.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 18.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 74.25 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.44 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 13.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 ก.ย.)ที่ระดับ 1,246.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.18 จุด (+0.18%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 272.98 ล้านบาทเมื่อ 7 ก.ย.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 96.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.89 ดอลลาร์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด(7 ก.ย.)ปิดทำการที่ 8.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.06/08 ปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 11 เดือน ตามภูมิภาค-ยูโร
- เอกชนรับสัญญาณบวกกฎหมายลงทุนต่างชาติฉบับใหม่ของพม่า เปิดทางธุรกิจรุกขยายตลาดมากขึ้น แต่ยังต้องศึกษารายละเอียดรอบคอบ วิตกสัดส่วนถือหุ้น 50/50 อาจมีปัญหาด้านการบริหาร ขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณารับอานิสงส์บริษัทข้ามชาติลุยสร้างแบรนด์ กระตุ้นตลาดโตก้าวกระโดด สศช.เผยการค้าชายแดนไทยกับเพื่อนบ้านปี 50-54 โต 12% ชี้ 5 ปีไทยได้ดุลการค้า 188,948 ล้านบาท พร้อมเสนอ 3 แนวทางยกระดับการค้าชายแดน
- คลังเตรียมตั้งกองทุนหมื่นล้านไปลงทุนหาผลตอบแทน เตรียมเงินไว้จ่ายบำนาญข้าราชการ ลดภาระงบปีละ7-8 แสนล้าน ใน 20 ปี, นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอนายกิตติรัตน์ ณระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และคณะรัฐมนตรี ให้อนุมัติจัดตั้งกองทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เตรียมเงินไว้จ่ายบำนาญให้ข้าราชการที่เกษียณอายุ
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เผยแพร่รายงาน "การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านปี2554" โดยเสนอให้สนับสนุนการค้าชายแดนเพื่อกระตุ้นการส่งออก โดยเฉพาะในระยะยาวควรปรับโครงสร้างให้มีกรมที่รับผิดชอบด้านชายแดนที่กรมเดียว เช่น Department of Homeland Security (DHS) ของสหรัฐ
- บริษัทจดทะเบียน 116 แห่งในตลาด หลักทรัพย์-เอ็ม เอ ไอ ปันผลระหว่างกาลครึ่งแรกปีนี้ 118,703 ล้านบาท จาก 117,126 ล้านบาทในปี 2554 และสร้าง สถิติเงินปันผลเกินแสนล้านเป็นปีที่สอง หรือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน 2 หุ้นใหม่ "ยูเรกา-โปรเจค แพลนนิ่ง" จ่อ เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอปลาย เดือนนี้
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ตัดสินใจจะไม่นำเรื่องการลดดอกเบี้ย 3% ให้กับลูกหนี้ดีไม่เกิน 5 แสนบาท ของธนาคารรัฐที่ไม่ยอมมาลงทะเบียนเข้าโครงการพักชำระหนี้ 3 ปี โดยอัตโนมัติ ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุขณะนี้ฐานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ไทยมีความเข้มแข็งมาก เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(บีไอเอส) ณ สิ้นเดือน มิ.ย.ปีนี้ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 15.04% แบ่งเป็นสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ประมาณ 10.54%
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPF(ฟินันเซีย ไซรัส)"สะสม"เป้า 42 เชื่อราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดเช่นเดียวกับผลประกอบการใน 2Q12 ที่ต่ำกว่าตลาดคาดมาก แม้แนวโน้มกำไรใน 3Q12 จะ flat Q-Q เพราะราคาเนื้อสัตว์ยังทรงตัวใกล้เคียง 2Q12 แม้เป็น high season ส่งออก แต่เชื่อว่าสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว จึงไม่คาดหวังกับกำไรในปีนี้ แต่เชื่อราคาเนื้อสัตว์จะเริ่มกระเตื้องขึ้นใน 4Q12 และต่อเนื่องถึงปีหน้า คาดปี 56 กำไรปกติโต 55% ปัจจุบัน CPF มี upside สูงที่สุดในกลุ่ม
- LPN(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เนื่องจาก UV จะซื้อหุ้น GRAND U จาก LPN ทั้งหมด 20% คาด LPN ได้กำไรสุทธิจากการขายประมาณ 44 ล้านบาท รับรู้ใน 4Q12 โดยมีราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 21.20 บาท
- SCC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"ราคาเหมาะสม 380.00 บาท คาดผลการดำเนินงานของ SCC น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q55 ผลการดำเนินงานจะกลับมาเห็นกำไรที่โดดเด่นใน 3Q55 จากการฟื้นตัวของราคาปิโตรเคมีในสาย Olefin อย่างต่อเนื่อง และอาจนำไปสู่การบันทึกกำไรจากสต็อกสินค้า หลังต้องเผชิญกับการขาดทุนในส่วนนี้อย่างมีนัยยะใน 2Q55 นอกจากนี้ ราคาถ่านหินที่ทรงตัวในระดับต่ำ ช่วยลดต้นทุนการผลิต