ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันนี้ โดย ณ เวลา 12.24 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% แตะที่ 271.58 จุด หลังจากจีนเปิดเผยยอดการนำเข้าที่ลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย และจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการนำเข้าในเดือนส.ค.ลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับตัวลง 2.6% จากปีก่อน แตะ 1.513 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการส่งออกของจีนในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.7797 แสนล้านดอลลาร์ บ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 8.9% ในเดือนส.ค. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 9.2% ในเดือนก.ค. และถือเป็นอัตราขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2552
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน หลังจากรัฐบาลผสมของกรีซไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 1.15 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่ากรีซจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้ เนื่องจากมาตรการลดการใช้จ่ายเป็นข้อหนดที่กรีซจะต้องดำเนินการเพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านการเงิน
นายแอนโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กำลังประชุมกับเจ้าหน้าที่จากยูโรโซน ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันนี้ หลังจากรัฐบาลของเขาประสบความล้มเหลวในการเจรจาลดงบประมาณรายจ่าย
อย่างไรก็ตาม หุ้นลุฟท์ฮันซ่าพุ่งขึ้น 2.3% หลังจากสหภาพแรงงานตกลงเลื่อนการผละงานประท้วงออกไป ภายหลังจากมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่คนกลาง ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ พุ่งขึ้น 3.8% และหุ้นบีพี ดีดตัวขึ้น 1.2%