ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 52.35 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 11, 2012 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน หลังจากรัฐบาลผสมของกรีซไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการลดงบประมาณการใช้จ่าย นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายในขณะที่จับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 52.35 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 13,254.29 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 8.84 จุด หรือ 0.61% แตะที่ 1,429.08 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 32.40 จุด หรือ 1.03% แตะที่ 3,104.02 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน หลังจากรัฐบาลผสมของกรีซไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 1.15 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้จัดการประชุมร่วมกับคณะผู้ตรวจสอบซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศที่สำนักนายกรัฐมนตรีในกรุงเอเธนส์ เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการตัดลบงบประมาณรายจ่ายชุดใหม่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับกรีซเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดใหม่

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพียง 8.9% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2552 ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนส.ค.ร่วงลง 2.6% แตะ 1.513 แสนล้านดอลลาร์ และยอดการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 2.7%แตะที่ 1.7797 แสนล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีจะมีคำวินิจฉัยต่อกรณีการจัดตั้งกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซน ในวันพุธนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 11-12 ก.ย. ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขายอย่างหนัก นำโดยหุ้นอินเทล คอร์ป ดิ่งลง 3.8% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของอินเทล ส่วนหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.6%

ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.5% หุ้นโบอิ้ง ดิ่งลง 2.5% หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ร่วงลง 2%

อย่างไรก็ตาม หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทประกาศปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงการปรับลดจำนวนพนักงาน

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศในเวลา 19.30 น.วันนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สหรัฐจะมียอดขาดดุลการค้า 4.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 4.29 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ