(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัว นลท.รอดูผล FED -ศาลฯเยอรมนีตัดสินกองทุน ESM

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 11, 2012 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส คาดตลาดวันนี้มีแนวโน้มมีโอกาสปรับตัวลงมากกว่า เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงมาก โดย P/E สูงถึง 14.7 เท่า ซึ่งเห็นว่าสูงมากเกินไป แนะให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง และนักลงทุนยังรอผลการประชุม FOMC รวมถึงผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน คาดว่า ตลาดอาจมี movement ไม่มาก

ให้กรอบแนวรับ 1,235 จุด แนวต้าน 1,270 จุด

ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดว่า SET Index อาจอ่อนตัวบ้างในวันนี้ จากการเคลื่อนไหวของ SET Index เมื่อวาน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังมีมุมมองที่ดีต่อทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังจากทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปีไปแล้วเมื่อวันศุกร์ (7 ก.ย.55) ที่ผ่านมา แม้มีการอ่อนตัวลงบ้างในช่วงปลายตลาดวันศุกร์ แต่ยังสามารถปรับตัวขึ้นใหม่อีกครั้งตามคาด ส่วนในระยะสั้น

ปัจจัยที่มีนักลงทุนควรติดตามอย่างมีนัยสาคัญก็คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยประเด็นสาคัญก็คือ กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ขัดต่อรัฐธรรมนูญเยอรมันหรือไม่ โดยสัปดาห์ก่อน นายโวล์ฟกัง ชอยเบล รมว.คลังเยอรมัน ได้แสดงความมั่นใจว่า ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันจะไม่ขัดขวางสนธิสัญญาจัดตั้งกองทุน ESM ส่วนมุมมองของเราเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากเชื่อว่า ถ้าผลการวินิจฉัยออกมาเป็นลบ คาดว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปจะเผชิญความยากลาบากมากขึ้น รวมทั้งความเสี่ยงที่กลุ่มยูโรโซนจะเผชิญกับปัญหาที่ตามมาอีกมาก

ดังนั้น ถ้า SET Index มีการอ่อนตัวระยะสั้น แนะนาซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีเพื่อการลงทุน แต่มีควรมีการขายทากำไร บางส่วนเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นใกล้เป้าหมายเช่นกัน ส่วนวันนี้ คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,240-1,250 จุด (ไม่เกิน 1,256 จุด)

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(10 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,254.29 จุด ลดลง 52.35 จุด(-0.39%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,429.08 จุด ลดลง 8.84 จุด(-0.61%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,104.02 จุด ลดลง 32.40 จุด(-1.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 58.04 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.24 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.66 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 69.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.49 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(10 ก.ย.)ที่ระดับ 1,250.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.83 จุด(+0.39 %
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 850.06 ล้านบาทเมื่อ 10 ก.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 96.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.12 ดอลลาร์หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(10 ก.ย.)ปิดทำการที่ 8.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.09/11 อ่อนค่า คาดวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ
  • โพลล์นักเศรษฐศาสตร์ชี้เฟดมีโอกาส 60% ออกคิวอี 3 กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังตัวเลขว่างงานเกินคาด ด้านแบงก์ชาติประเมินไม่กระทบภาคผลิต แต่ส่งผลสภาพคล่องตลาดเงิน ขณะนักวิเคราะห์คาดมาตรการเปิดกว้างเปิดเลือกอัดฉีดได้ตามสถานการณ์
  • ธุรกิจเจ๊ง เดือน ส.ค.ร่วงกว่า 1,300 ราย สูญ 6,000 ล้านบาท รวม 8 เดือน เจ๊งเพิ่ม 16% สูญ 3 หมื่นล้านบาท, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนนิติบุคคลเลิกทั่วประเทศเดือน ส.ค. 2555 มี 1,354 รายเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ปีเดียวกัน ลดลง 3% โดยมีเงินทุนจดทะเบียนเลิกเดือน ส.ค. อยู่ที่ 6,005 ล้านบาท ส่งผลให้ 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค.) 2555 มีธุรกิจปิดกิจการ 8,333 ราย เพิ่ม 16% สูญ 3.05 หมื่นล้านบาท
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยจะชะลอการออกประกาศการจัดทำแนวทางตรวจสอบธุรกิจต่างด้าวออกไปก่อนหลังจากมีบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโทรคมนาคมยื่นหนังสือสอบถามมายังกรมถึงสถานะความเป็นคนไทยของบริษัทตนเอง ทำให้เกรงว่าหากมีการประกาศแนวทางตรวจสอบระยะนี้ออกไป อาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เนื่องจากจะมีการแข่งขันยื่นประมูลขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 3จี อาจทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม
  • โบรกเกอร์-ผู้ประกอบการทองคำ ชี้หาก "ศาลเยอรมนี-เฟด" ไร้มาตรการตั้งกองทุนและออกคิวอี3 ส่งผลกระทบกดหุ้น-ทองดิ่งแรง ขณะที่ผู้ค้าทองคำในประเทศ มองการปรับขึ้นของราคาทองโลกรอบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการปั่นของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ หวั่นเสี่ยงถูกขายทำกำไรออกมา
  • แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยน่าห่วงต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า พร้อมจับตาการตัดสินศาลเยอรมนีว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน ระบุหลายประเทศในเอเชียหันมาพึ่งอุปสงค์ในประเทศมากขึ้นแทนการส่งออกแผ่ว ขณะเดียวกันมองการออก QE3 ประสิทธิผลน่าจะลดลงกว่าครั้งก่อนๆ
  • สมาคมการตลาดฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้จีดีพีโต 5% แม้ว่าเริ่มมีปัจจัยลบน้ำท่วมบางจังหวัด ยันการบริโภคในครัวเรือนโต 5-6% ธุรกิจรถยนต์อุปโภคบริโภคโตพรวด แนะเปิดเออีซีกลุ่มผู้ประกอบการต้องศึกษาข้อมูลลึกซึ้ง สร้างแบรนด์แข็งแกร่งโอกาสรุ่ง ชงกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลบูม ระบุบริษัทไทยต้องปรับตัวรับมือคู่แข่งทะลักทำตลาด เผย 4 แนวทาง พร้อมปรับตัวสู่ยุคดิจิตอลหวังสร้างนักการตลาดรับศึกเออีซี
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานยอดการใช้บริการบัตรเครดิตทั้งระบบงวดเดือน ก.ค. พบว่ามียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตรวมทั้งสิ้น 1.08 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,172 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 9.95 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • RML(ฟินันเซีย ไซรัส)แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2H12 และคาดกำไรปี 2013 เติบโตในระดับ 56% ราคาหุ้นปัจจุบันมี PE เพียง 4.7 เท่าปีนี้ 3.1 เท่าปีหน้า พร้อมประเมินราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 2.25 บาท
  • กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็กยังน่าสนใจ(ฟินันเซีย ไซรัส)เป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นสูงเป็นอันดับ 3 ในรอบ 1 สัปดาห์เศษที่ผ่านมา เชื่อแรงหนุนยังมีอยู่โดยสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศยอดขายรถเดือน ส.ค.น่าจะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง หุ้นที่ยังมี upside มากสุด(25% ขึ้นไป)และมี PE ต่ำสุด(ต่ำกว่า 9 เท่า)ยังเป็น AH(TP ปีหน้า 28.50 บาท) และ TKT(TP ปีหน้า 5.40 บาท)
  • SUSCO(บัวหลวง)ถือ/ซื้อเก็งกำไร PE ปัจจุบันเทรด 9x VS ค่าเฉลี่ยอดีต 11-14x, เก็งประกาศดีล ซื้อ/ขยาย ธุรกิจค้าปลีกพลังงาน และพันธมิตรธุรกิจค้าปลีกรายใหม่เร็ว ๆ นี้ และแนวโน้มน้ำมัน 4Q12F MS คาด Sideway-down หนุนค่าการตลาด
  • กลุ่มโรงไฟฟ้า EGCO, GLOW, RATCH(บัวหลวง)ร่าง TOR-ประมูลโรงไฟฟ้า IPP มาเร็วกกว่าคาด(บวกระยะสั้น เพราะกว่าจะรู้ผลคาดปลายปี 13F)
  • SCC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 350 บาท ภาพรวมผลประกอบการ 2H55 ยังเติบโตดี คาด 3Q55 ธุรกิจเคมีภัณฑ์จะไม่เกิด Stock Loss หลังจากสเปรดปิโตรเคมีเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์และธุรกิจวัสดุก่อสร้างยังเติบโตได้จากการลงทุนสาธารณูปโภคของภาครัฐและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คงประมาณการกำไรสุทธิราว 30,056 ล้านบาท เติบโต 10% YoY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ