น.ท.สมพงษ์ โพธิ์เกษม กรรมการบริหาร บมจ. กสท โทรคมนาคม (CAT ) เปิดเผยว่า ในการประชุม บอร์ด กสทฯ ในวันพรุ่งนี้จะยังไม่มีการวาระเรื่องการแก้ไขสัญญากับกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เนื่องจากยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ และทางนายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสทฯ ได้ขอเลื่อนส่งการแก้ไขสัญญาดังกล่าวกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)ไปอีก 30 วัน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหาร CAT กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อแก้ไขสัญญา 3จี HSPA บนคลื่นความถี่ 800 MHz ระหว่าง กสทฯ กับ กลุ่ม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ว่า ขณะนี้ กสทฯ ได้ขอเลื่อนการส่งผลเจรจาเพื่อแก้ไขสัญญาดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรา 46 องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) กับ กทค. ไปอีก 30 วัน หลังจากที่ได้ขอเลื่อนสรุปผลการแก้ไขสัญญามาแล้วถึง 2 ครั้ง ที่บอร์ด กทค.มีมติตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.55 เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกับทาง TRUE ได้สำเร็จใน 6 ข้อตามที่บอร์ด กทค.มีมติให้ปรับแก้ไข
อย่างไรก็ตาม จากการเจรจาที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ประกอบกับขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ยังไม่มีข้อสรุปของสัญญาดังกล่าวมานั้น ทางกรรมการบอร์ด กสทฯ ได้มีแนวคิดที่จะคืนคลื่น 800 MHz ที่เป็นปัญหาของสัญญาให้กับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อนำกลับไปเปิดประมูลใบอนุญาตใหม่ หากพบว่า ปัญหาของสัญญาดังกล่าวทำให้ กสทฯ ต้องเสียหายและเสียเปรียบกลุ่ม TRUE ซึ่งการที่ กสทช.นำคลื่นดังกล่าวไปประมูลใหม่จะทำให้รัฐได้เงินไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท
"กทค.ฟันธงว่า บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการนั้น และการเจรจาก็ไม่สำเร็จ อีกทั้ง กลุ่ม TRUE ก็ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว บวกกับ กสทฯ เสียประโยชน์ทั้งการที่ กลุ่ม TRUE โอนลูกค้าจาก 2จี ไปยัง 3 จี ในสัญญาใหม่ ก็ทำให้ เขาจ่ายส่วนแบ่งสัมปทานน้อยลง ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบ กสทฯ ดังนั้น หากการเจรจาไม่สำเร็จ จึงเห็นว่าควรที่จะคืนคลื่น 850 MHz ให้ กทค.เพื่อจัดสรรใหม่และสามารถนำเงินเข้าสู่รัฐได้อีกไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท" แหล่งข่าว กล่าว