บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.ไทยออยล์(TOP) ราคาเหมาะสม 67.50 บาทประเมินว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะมี Momentum เชิงบวกต่อการเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q55 ที่คาดว่าจะพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ / เติบโตสูง qoq เมื่อเทียบกับ 2Q55 ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมากจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันดิบ
ประเมินเบื้องต้นคาดว่า TOP จะมีกำไรสุทธิ 3Q55 สูงถึง 7,000 - 8,000 ล้านบาท พลิกกลับจากผลขาดทุนสุทธิสูงถึง 6,903 ล้านบาท ใน 2Q55 เนื่องจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ (GRM) เฉลี่ย Ytd ใน 3Q55 เพิ่มขึ้นถึง +37.5% yoy เป็น US$9.14/barrel จาก 2Q55 ที่ US$6.65/barrel และคาดว่าจะมีการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันราว US$5-6/barrel ใน 3Q55 จากการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบดูไบ +15.7% QTD เป็น US$112.79/ barrel จากสิ้นสุด 2Q55 ที่ US$97.07/barrel
นอกจากนั้น คาดว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะได้รับอานิสงค์เชิงบวก หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมคืนนี้ และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ไต่ระดับขึ้นทดสอบ US$100.00/barrel จากเงินทุนที่ไหลเข้าเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง
พร้อมเชื่อว่าหุ้นกลุ่มพลังงาน - ปิโตรเคมี มี Downside ที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเคลื่อนไหว Underperform ตลาดมาก โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (Ytd) SET ENERGY +0.81% และ SET PETRO +0.78% น้อยกว่า SET INDEX +21.9% ขณะที่ TOP +13.6% ดังนั้น จึงเชื่ออาจมีแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในประเทศ เพื่อเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q55รวมทั้ง การเกิด Window Dressing ในช่วงปลายเดือน ก.ย.2555
วานนี้(11 ก.ย.)หุ้น TOP ปิดที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท(+2.30%)