โบรกฯต่างเชียร์ THAI ราคาปัจจุบันยัง Laggard,เล็งงบฯปีนี้พลิกเป็นกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 13, 2012 10:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.การบินไทย(THAI)มองราคาหุ้นในปัจจุบันยัง Laggard อยู่มาก และผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)จะฟื้นตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก(H1/55) โดยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/55 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิในช่วง 1,500-3,300 ล้านบาท ซึ่งทำได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก(H1/55)ที่ทำกำไรได้แค่ 200 ล้านบาท

เนื่องจากไตรมาส 3/55 จำนวนผู้โดยสารมีการเติบโตดี และต้นทุนน้ำมันลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/55 ซึ่ง THAI ได้ทำประกันความเสี่ยงน้ำมันไว้สูงด้วย ส่วนไตรมาส 4/55 ผลประกอบการจะดีขึ้นอีกจากการเข้าสู่ช่วง High Season และคาดจะไม่เจอภาวะน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจการบินของ THAI ยังเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจาก THAI มีภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงคิดเป็นประมาณ 30-40% ของรายได้ และยังมีคู่แข่งจากสายการบินจากตะวันออกกลาง ซึ่งต้นทุนน้ำมันจะถูกกว่า THAI และยังมีการเพิ่มเครื่องบินในแต่ละปีมากกว่าของ THAI ด้วย

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2555)ไว้ในช่วง 3,800-5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2554)ที่มีผลขาดทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากปีที่แล้ว THAI ได้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ อันเป็นผลจากต้นทุนน้ำมันเป็นหลัก และยังเจอผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมหนักด้วย

อนึ่ง THAI และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานปี 2554 ขาดทุน 1.02 หมื่นล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 4.67 บาท

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ   ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)    ซื้อ           34.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส        ซื้อ           28.00
          บล.กรุงศรี              เก็งกำไร      28.00
          บล.ไทยพาณิชย์           ซื้อ           27.00
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน       ซื้อ           26.75
          บล.เอเชีย พลัส          ซื้อ           26.00
          บล.คันทรี่ กรุ๊ป           ซื้อ           25.25
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส      ซื้อ           24.80

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มการบินขณะนี้ถือว่าค่อนข้างจะ Laggard อยู่มาก ซึ่งหุ้น THAI คงแนะ"เก็งกำไร"เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)น่าจะมีการฟื้นตัวได้ดี จากการเข้าสู่ช่วง High Season อีกทั้งราคาหุ้นในปัจจุบันยังเทรดอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มการบินในแถบภูมิภาค คิดเป็น P/BV. เพียง 0.8 เท่า

ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/55 คาดว่า THAI น่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งทำได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก(H1/55)ที่ทำกำไรได้แค่ 200 ล้านบาท โดยมองว่าไตรมาส 3/55 ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง High Season และต้นทุนน้ำมันลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/55

อย่างไรก็ดี ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจการบินของ THAI ยังเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจาก THAI มีการเพิ่มเครื่องบินปีละ 1 ลำเท่านั้น และยังต้องรับภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงคิดเป็นประมาณ 30-40% ของรายได้ ขณะที่สายการบินจากตะวันออกกลางมีการเพิ่มเครื่องบินปีละ 3 ลำ และต้นทุนน้ำมันของพวกตะวันออกกลางก็ถูกด้วย ซึ่งสายการบินจากตะวันออกกลางปัจจุบันมีการขยายเส้นทางการบินในเอเชียมากขึ้น และยังมีไปแถบยุโรปมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ THAI ยังต้องแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ และด้วยสภาพการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้มองว่า THAI คงยากที่จะปรับขึ้นราคาตั๋วเครื่องบินได้ในปีหน้า(2556)

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2555)ไว้ที่ 5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2554)ที่มีผลขาดทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากปีที่แล้ว THAI ได้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 2,400 ล้านบาท และขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจราว 7,700 ล้านบาท อันเป็นผลจากต้นทุนน้ำมันเป็นหลัก ส่วนปีหน้า(2556)คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 6,900 ล้านบาท

ด้านนายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น THAI ในปัจจุบันถือว่ายัง Laggard เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 34 บาท/หุ้น และยัง Laggard เมื่อเทียบกับการปรับตัวขึ้นของตลาดฯ

ทั้งนี้ได้มองว่าผลประกอบการงวดครึ่งปีหลัง(H2/55)ของ THAI จะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก(H1/55) เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารมีการเติบโตได้ดี โดยจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/55 เรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วง High Season อีกทั้งในไตรมาส 4/55 ก็คาดว่าจะไม่เจอภาวะน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว

นอกจากนี้ THAI มีการทำประกันความเสี่ยงน้ำมันไว้สูงในครึ่งปีหลัง(H2/55)ทำให้ต้นทุนน้ำมันของ THAI น่าจะถูกกว่าคู่แข่ง ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2555)ไว้ที่ 4,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว(2554)

ส่วนนายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส ให้เหตุผลแนะนำ"ซื้อ"หุ้น THAI ว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/55 และในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)ผลประกอบการก็จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ โดยคาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 3/55 จะมีประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารมีเพิ่มขึ้น และการจัดโปรโมชั่นก็ลดลงด้วย ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงขึ้น ส่วนในไตรมาส 4/55 ก็จะเป็นช่วงเข้าสู่ High Season

นอกจากนี้ ราคาหุ้น THAI ในปัจจุบันถือว่ายัง Laggard อยู่เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ 26 บาท/หุ้น พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2555)ไว้ที่ 3,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว(2554)ที่ขาดทุนเป็นหลักหมื่นล้าน ส่วนหนึ่งเป็นการรับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมหนักในช่วงปลายปีที่แล้วด้วย


แท็ก การบินไทย   (THAI)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ