นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.เออาร์ไอพี(ARIP)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ไอโฟน 5 และวินโดว์ 8 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมถึงกระแสข่าวการพัฒนาไอแพดมินิที่ค่ายแอปเปิลจะนำออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ จะทำให้ไตรมาส 4/55 มีการจัดงานอีเวนท์ใหญ่ๆ เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ที่ทยอยประกาศออกมาเพิ่มขึ้น ประกอบกับ บริษัทจะจัดงานคอมมาร์ทใหญ่ของปีช่วงเดือน พ.ย.55 ก็เชื่อว่าจะทำยอดขายทำได้ดี
"ครึ่งหลังรายได้จะสูงกว่าครึ่งแรกที่ 140 กว่าล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3 นี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวเยอะ หลักๆ ก็จะมีของแอป เปิลออกไอโฟน 5 และจะออกไอแพดมินิ ไมโครซอฟก็จะออกวินโดว์ 8 ซึ่งเป็นการมาพร้อมแพลทฟอร์มใหม่ เช่น โน๊ตบุ๊กที่เป็นแบบทัชสกรีนที่จะใช้งานกับวินโดว์ 8 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตอนนี้ทางเวนเดอร์และผู้ค้าก็จะรอสินค้าใหม่ๆ พวกนี้ออกมา"นายปฐม กล่าว
นายปฐม กล่าวอีกว่า บริษัทยังคาดว่ากำไรในปีนี้ก็น่าจะสูงกว่าปี 54 อย่างมาก เพราะครึ่งปีแรกก็ทำกำไรได้แล้ว 20 ล้านบาท เกือบเท่ากำไรทั้งปี 54 อยู่ที่ 21.38 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งหลังกำไรก็น่าจะดีต่อเนื่องจากครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อน 230 ล้านบาท
การเติบโตของรายได้ในปีนี้ถือว่าเติบโตกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีที่ปีนี้ประเมินสถานการณ์ไม่ดีนัก โดยคาดว่าจะเติบโต 10-11% ซึ่งครึ่งแรกอุตฯไอทีก็เติบโตไม่ถึงเป้าเพราะโดนชะลอตัวจากน้ำท่วม ประกอบกับรอสินค้าไอทีใหม่ๆ ประกาศตัวครึ่งปีหลัง
"ครึ่งแรกผลประกอบการเรายังไม่ดีเท่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังโอเค ซึ่งเป็นไปตามอุตฯเพราะโดนชะลอตัวจากน้ำท่วม ซึ่งกลุ่มเวนเดอร์หรือผู้ค้าต่างๆ จะมาหวังไตรมาส 3-4 ที่จะมีสินค้าออกใหม่เยอะทั้งไอโฟน 5,ไอแพดมินิ,วินโดว์ 8 ที่เราจะได้มีการจัดงานอีเวนท์แนะนำสินค้าเหล่านี้ และจะมีงานใหญ่คอมมาร์ตช่วงพ.ย.นี้ ก็จะหนุนการรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ซึ่งน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด"
สำหรับแผนการเข้าถือหุ้นเพิ่มในบริษัท สแพลช อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด เป็น 100% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 40% คาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า การเจรจายังติดเรื่องการทำรายการทีวีร่วมกันในอนาคต จากปัจจุบันมีอยู่ 2 รายการ เป็นรายการไอทีและไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ออกอากาศทางช่อง 5 ซึ่งหากลงทุนเพิ่มในสแพลชฯ ก็จะมีการเพิ่มรายการทีวีมากขึ้น ส่วนจะเพิ่มอีกกี่รายการนั้นอยู่ระหว่างวางแผนร่วมกัน
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการจัดงานอีเวนท์สินค้าไอที 65-70% ที่เหลือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ มีเดีย รายการทีวี