นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเวลานี้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มทยอยลงทุนในกองทุนประเภท RMF/LTF บริษัทจึงถือโอกาสเปิดจำหน่ายครั้งแรก(IPO) กองทุนเปิดกรุงไทย ซีเล็คทีฟ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ(KTSE- RMF) ในวันที่ 17 ก.ย.-1 ต.ค.55 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท เพื่อเป็นทางเลือกใหม่
กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหุ้นทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เป็นต้น โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนจะเน้นการบริหารแบบเชิงรุกซึ่งผู้จัดการกองทุนจะทำการวิเคราะห์และคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับความเสี่ยง และพิจารณาปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละช่วง ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนประเภท RMF จำนวน 5 กองทุน ในแต่ละกองทุน มีนโยบยการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป เช่น กองทุนเปิดกรุงไทยผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF1)มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผสมกับตราสารหนี้, กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF2)ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ ผสมกับหุ้นกู้ภาคเอกชน, กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF3) มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรภาครัฐทั้ง 100%, กองทุนเปิดกรุงไทยตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF4) มีนโยบายลงทุนในตลาดเงิน(Money Market) และกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ( KSRMF ) มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม ดังนั้น กองทุน KTSE-RMF จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกรณีที่ ECB ได้ออกมาประกาศแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งได้มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน เช่นเดียวกัน ส่งผลให้มีเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นไปในทิศทางที่ดี
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศแม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังคงได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ในขณะที่ยอดการขายบ้าน และที่อยู่อาศัยที่ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้เป็นส่วนช่วยผลักดันให้ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศมีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ยังคงมองดัชนี SET มีแนวโน้มเป็นบวกและมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,300 จุดได้ ณ สิ้นปี 2555
บริษัทเห็นโอกาสในการลงทุนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน เพราะในช่วงที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไร และมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี KTSE- RMF จัดตั้งมาเพื่อเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าว มีการบริหารจัดการแบบ Active management ลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน และผลประกอบการที่ดี มีความสามารถในการทำกำไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยร่วมมือกับทางฝ่ายวิจัยของบริษัทอย่างใกล้ชิดเพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีผลการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในลักษณะดังกล่าวเหมาะกับการลงทุนระยะยาว