ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กขายทำกำไร,วิตกศก.จีน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 40.27 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2012 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 40.27 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 13,553.10 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.58 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 1,461.19 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 5.28 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 3,178.67 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากตลาดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อวันก่อน อันเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าเฟดประกาศใช้มาตรการ QE3 ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และเฟดยังได้ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557

ขณะเดียวกันตลาดได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.6% จากระดับ 8% เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศชะลอตัวลง ขณะที่บาร์เคลย์ อินเวสต์เมนท์ แบงก์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 8.1%

อย่างไรก็ตาม บาร์เคลย์ส คาดว่าจีนจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากอุปสงค์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง โดยคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในไตรมาส 3 เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ให้แข็งแกร่งขึ้น และคาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมการผลิตในนิวยอร์ก ลดลงเหนือความคาดหมายสู่ระดับ -10.41 ในเดือนก.ย. หลังจากที่ร่วงลงกว่า 13 จุด สู่ระดับ -5.85 ในเดือส.ค.

นอกจากนี้ ตลาดยังอ่อนแรงลงหลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับรายละเอียดการขอรับความช่วยเหลือของประเทศต่างๆในยุโรโซน และไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนในการผนวกรวมภาคการธนาคารของยูโรโซน ในการประชุมซึ่งมีขึ้นที่ไซปรัสเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง นำโดยหุ้นอัลโค ร่วงลง 2.6% ขณะที่หุ้นคลิฟฟ์ เนเชอรัล รีซอสเซส ร่วงลง 7%

ส่วนหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.9% แบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลงกว่า 2.4%

อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.2% ขานรับยอดสั่งจองผลิตภัณฑ์ iPhone 5 กว่า 2 ล้านเครื่อง

นักลงทุนจับตาดูข้อเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ โดยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2555 และในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ