HOTPOT ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 3.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท(+39.29%)จากราคาขาย IPO ที่ 2.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 536.18 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.90 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 4.00 บาท และราคาลงต่ำสุด 3.70 บาท
น.ส.สกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮอทพอท (HOTPOT) กล่าวว่า พอใจระดับราคาหุ้นเปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 40% เชื่อว่าเป็นเพราะนักลงทุนมองธุรกิจของบริษัทเติบโตค่อนข้างดี โดยช่วงที่ผ่านมารายได้เติบโตปีละ 20-30% ขณะที่ครึ่งแรกปีนี้ก็ยังเติบโตในอัตราเดิมคือกว่า 30% และทั้งปี 55 ก็คาดว่าจะรักษาการเติบโตที่ระดับ 30% เช่นกัน
บริษัทตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยปี 56 จะเปิดสาขาใหม่ราว 20-25 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 6-8 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ระดมทุนจากการขายหุ้น IPO จะเน้นนำไปใช้ขยายธุรกิจทั้งการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม โดยในช่วง 3-4 ปีข้างหน้านี้บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาปีละ 20-25 ปี เพื่อให้ควบคุมทั่วประเทศของไทย ทั้งกทม.และต่างจังหวัด
ปัจจุบัน ร้านอาหารในเครือ HOTPOT มีสาขาในกทม.61 สาขา และต่างจังหวัด 65 สาขา ซึ่งจากนี้ไปบริษัทคงจะเน้นการเปิดร้านสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่กำลังเดินหน้าขยายสาขาในต่างจังหวัด โดยบริษัทจะเปิดสาขาเพิ่มทั้งในห้างใหม่และห้างเดิม รวมทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ และโมเดิร์นเทรด
น.ส.สกุณา กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) แต่ยังไม่ได้กำหนดนโยบายชัดเจน เพราะตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศก่อนเปิด AEC อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจในแบรนด์ฮอทพอต และยังไม่มีแผนจะเปิดแบรนด์ใหม่ในเร็วๆ นี้ โดยหลังจากที่ซื้อกิจการไดโดมอนมาแล้วก็จะเน้นรักษาแบรนด์เดิมไว้ก่อน ขอดูการปรับปรุงกิจการไดโดมอน คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 2-3/56 หลังจากนั้นจะเริ่มทำกิจกรรมทางการตลาดที่ชัดเจนขึ้น "แบรนด์เราแข็งแรง ถ้าเปิด AEC แล้วมีแบรนด์ใหม่เข้ามาก็ต้องพึ่งโลเคชั่นเป็นหลัก ซึ่งเราไม่กังวล และจากนี้ไปเราก็ไปต่างจังหวัดตามห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ ก็จะทำให้เราควบคุมได้"น.ส.สกุณา กล่าว
ปัจจุบันการเติบโตของรายได้สาขาเดิมอยู่ที่ 15% ต่อปี แต่ปี 56 ตัวเลขการโตอาจลดลงเพราะมีการเปิดธุรกิจอาหารมากขึ้น
ด้านบล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า HOTPOT เข้าซื้อขายในตลาด mai ในวันนี้ โดยราคา IPO อยู่ที่ 2.80 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นงวด 6 เดือนปี 55 ที่บริษัททำได้ 9 สตางค์ต่อหุ้น จะคิดเป็น PER ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PER ของตลาด mai เฉลี่ย 10 ปีที่ 16 เท่า
บมจ.ฮอท พอท(HOTPOT)ประกอบธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟต์ ภายใต้แนวคิด"All You Can Eat"หรือ"อิ่มได้ไม่อั้น"โดยแบ่งประเภทร้านอาหารเป็น 2 ประเภท คือ 1.ร้านอาหารบุฟเฟต์นานาชาติภายใต้แบรนด์หลัก "ฮอท พอท"มีอาหารหลักเป็น สุกี้ ชาบู และ2. ร้านอาหารบุฟเฟต์แนวปิ้งย่างและชาบูสไตล์ญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์"ไดโดมอน"
HOTPOT เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 101,984,900 หุ้น ในราคา IPO 2.80 บาท/หุ้น ทั้งนี้ HOTPOT มีจำนวนหุ้นจดทะเบียน 406,000,000 หุ้น ราคา Par 0.25 บาท/หุ้น โดยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI)