ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,273.70 จุด ลดลง 4.84 จุด(-0.38%) มูลค่าการซื้อขาย 12,136.14 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,279.09 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,272.50 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐานตามตลาดต่างประเทศ แต่ตลาดบ้านเราเป็นการปรับฐานเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่น่ากังวล เนื่องจากยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งยังไม่เห็น Flow ไหลออก ดังนั้น จึงเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนหุ้นเล่นเท่านั้น
ทั้งนี้ มองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดบ้านเราในปีนี้น่าจะมีกำไรที่ออกมาเติบโตสูง โดยมีการคาดการณ์กันว่าจะเติบโตประมาณ 22-23% และหากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้อีก ดังนั้นนักลงทุนจึงยังคง Hold หุ้นกันไว้ก่อน
สำหรับปัจจัยจากนอกประเทศเวลานี้ต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจทั้งจีน, สหรัฐฯ และยุโรป อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจีนหลังจากที่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาด้วยการอัดฉีดเงินแล้วต้องรอดูว่าทำได้มาก/น้อยแค่ไหน แต่ก็มองว่าเงินที่เข้ามาคงจะมาลงพวกก่อสร้างสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการสร้างทางรถไฟ ทำให้มองว่าสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity)ยังน่าสนใจ
นอกจากนี้ ต่อไปก็คงจะมีการเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/55 โดยน่าจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.นี้ที่อาจเล่นเก็งงบฯของกลุ่มแบงก์ก่อน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ในกรอบแคบ เพื่อรอลุ้นปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามา พร้อให้แนวรับ 1,265 จุด แนวต้าน 1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 577.60 ล้านบาท ปิดที่ 339.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 508.59 ล้านบาท ปิดที่ 350.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 421.33 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 406.78 ล้านบาท ปิดที่ 450.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 405.53 ล้านบาท ปิดที่ 1.34 บาท ลดลง 0.01 บาท