สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อ 17 กันยายน 2555 เนื่องจากบริษัทฯมีความต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน(IPO) จำนวน 82.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.50 ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมีบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ (PPP) ประกอบธุรกิจ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และให้บริการผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย ระบบบำบัดน้ำเสีย, อุปกรณ์สำหรับระบบบำบัดน้ำเสีย, ระบบสำรองน้ำ และการให้บริการและดูแลสำหรับระบบบำบัดน้ำเสีย
อีกกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม เป็นผู้ออกแบบผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม โดยเบ่งเป็น 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว 2.ผลิตภัณฑ์หลังคาและผนังเหล็กขึ้นรูป 3.ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุอะครีลิค และ 4. ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง
ปัจจุบัน บริษัทฯอยู่ระหว่างพิจารณาการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์ โดยมีแนวทางที่จะเข้าซื้อเงินลงทุนใน IGC เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนและจะให้ IGC มีสถานะเป้นบริษัทย่อยของบริษัทฯภายหลังการปรับโครงสร้างแล้วเสร็จซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2555
บริษัท IGC เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจัดอยู่ในประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)
ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือนแรก ปี 2555 มีรายได้รวม 650.33 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32.55 ล้านบาท และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 25555 บริษัทฯมีสินทรัพย์ 770.77 ล้านบาท หนี้สิน 635.36 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 135.41 ล้านบาท
ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2555 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนเรียกชำระแล้ว 217.50 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะมีทุนเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ"พรีเมียร์ โพรดักส์" ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2555 คือ บริษัท พรีเมียร์ ฟิชชั่นแคปปิตอล จำกัด ถือหุ้น 183,318,805 หุ้นหรือคิดเป็น 84.28% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 61.11%
บริษัทฯและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองตามที่กฎหมายกำหนด