นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ตลท.ร่วมกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จัดงาน “Thailand Corporate Day" เป็นครั้งแรกในประเทศจีน ในวันนี้ (18 ก.ย.55) ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ โดยนำ 4 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ร่วมเดินทางให้ข้อมูลตอกย้ำศักยภาพตลาดทุนไทยและความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย ดึงความสนใจจากบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทจัดการลงทุนจีนเข้าร่วมงานกว่า 40 สถาบัน ซึ่งบริษัทจัดการลงทุนเหล่านี้มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันมากกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
การโรดโชว์นำเสนอข้อมูลและความน่าสนใจของตลาดทุนไทยและบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ ซึ่งนอกจากการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศที่เป็นศูนย์กลางการลงทุนหลักของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกงแล้ว ยังได้มุ่งที่จะเข้าไปพบผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่ยังไม่มีการลงทุนในประเทศไทย เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน
ทั้งนี้ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตลท.ได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้ลงทุนสถาบันจีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจีนอย่างต่อเนื่อง และพบว่าผู้ลงทุนสถาบันจีนที่ได้รับอนุมัติให้ลงทุนในต่างประเทศ มีความสนใจลงทุนในตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น หลังเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มจากการลงทุน เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับลดลงกว่า 5.50% (ข้อมูล ถึง วันที่ 17 ก.ย.55) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์หลักในภูมิภาคเอเชีย โดยเพิ่มขึ้น 24.70%
"การจัดงาน Thailand Corporate Day ที่เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียนไทยจะได้นำเสนอข้อมูลโดยตรงแก่ผู้ลงทุนจีน ให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดทุนไทย และความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทยที่สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วแม้จะประสบกับภาวะวิกฤตทางการเงินโลกและมหาอุทกภัยในปีที่ผ่านมา" นายวีรไท กล่าว
สำหรับ บริษัทจดทะเบียน 4 บริษัทใน 4 หมวดธุรกิจหลัก ที่ร่วมงานโรดโชว์ครั้งนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่เป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาล ประกอบด้วย หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร คือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) หมวดธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และหมวดพลังงาน คือ บมจ. ปตท. (PTT) โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันกว่า 1.79 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 16.90% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย.55)