ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 5.68 จุด คล้ายตปท., เจอ take profit หลังสะดุดปัจจัยจากยุโรป-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2012 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,272.86 จุด ลดลง 5.68 จุด(-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 28,569.89 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,279.09 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,269.16 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 222 หลักทรัพย์ ลดลง 323 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 165 หลักทรัพย์

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้อ่อนตัวลง คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีการ take profit ออกมาภายหลังจากที่ตลาดตอบรับมาตรการ QE3 ไปแล้ว อีกทั้งเงินดอลลาร์ฯก็กลับมาแข็งค่าอีก และยังมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะเรื่องที่จีนกับญี่ปุ่นมีปัญหาขัดแย้งเรื่องสิทธิการครอบครองเกาะแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ตลาดในยุโรปที่เปิดเทรดมาก็ติดลบค่อนข้างมาก เนื่องจากความคืบหน้าการเอาเงินกองทุนไปช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาในยุโรปยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทำให้การแก้ไขปัญหาในยุโรปมีความล่าช้า และมีการมองกันว่าปัญหาอาจจะลุกลามออกไปได้อีก

อย่างไรก็ดี ถ้ามาตรการ QE3 มีการดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ เชื่อว่าสภาพคล่องก็จะต้องเข้ามาในระบบ และ Flow ก็คงจะต้องเข้ามาที่ตลาดหุ้นอยู่ดี และหากมองการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในแต่ละตลาดฯ จะเห็นได้ว่าทางยุโรปและสหรัฐฯปีนี้กำไรของบริษัทฯคงจะออกมาไม่เด่น แต่ทางเอเชียจะเด่นกว่า และประเทศที่มีการคาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโต ก็จะมีไทยอยู่ในกลุ่มการเติบโตกำไรที่ดีด้วย โดยคาดไทยจะมีกำไรเติบโต 17%, มาเลเซีย จะมีกำไรเติบโต 19% ส่วนอินโดนีเซีย จะมีกำไรเติบโต 18% ซึ่ง Flow ก็น่าจะเข้ามาในไทยด้วย และต่างชาติบางแห่งยังคงแนะ"Over weight"ตลาดหุ้นไทย

"วันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเห็นได้ว่าหุ้นขนาดใหญ่พักตัว นักลงทุนมีการ switch เข้าไปเล่นหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กกันเป็นส่วนใหญ่ ดูได้จาก Index จะเห็นได้ว่า SET Index เป็นสีแดง แต่ mai Index เป็นสีเขียว"

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(19 ก.ย.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะอยู่ในแดนบวกได้ ถ้าไม่มีปัจจัยลบเข้ามาเพิ่ม เนื่องจากตลาดฟิวเจอร์เริ่มที่จะกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยในบางจุดแล้ว

ส่วนทางเทคนิคนั้นจะเห็นได้ว่าดัชนีฯได้ขึ้นมาทำ New High หลายครั้ง จึงมีการพักตัวบ้าง แต่ถ้าไม่หลุดแนว 1,260 จุด ซึ่งจัดให้เป็นจุด stop loss ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปต่อได้ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,280-1,300 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,575.48 ล้านบาท ปิดที่ 351.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,229.30 ล้านบาท ปิดที่ 338.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 924.99 ล้านบาท ปิดที่ 193.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 829.23 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 790.56 ล้านบาท ปิดที่ 446.00 บาท ลดลง 14.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ