ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผวน เนื่องจากกระแสการตอบรับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ของเฟดเริ่มอ่อนแรงลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องความเป็นไปได้ที่ว่าสเปนอาจจะขอความช่วยเหลือด้านการเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 11.54 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 13,564.64 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.87 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 1,459.32 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.87 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 3,177.80 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากกระแสตอบรับมาตรการ QE3 ของเฟดเริ่มแผ่วลง ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตาดูสถานการณ์หนี้สินของสเปน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานว่าธนาคารพาณิชย์ของสเปนเป็นหนี้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) 3.887 แสนล้านยูโร (5.104 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 3.5% จากระดับ 3.755 แสนล้านยูโรในเดือนกรกฎาคม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลตราสารหนี้ระยะสั้นวงเงินรวม 6 พันล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ แต่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าสเปนอาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากต่างประเทศ
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากบริษัท เฟดเอ็กซ์ ปรับลดแนวโน้มผลกำไรในปีนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ลูกค้าหันไปใช้บริการทางเลือกอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเฟดเอ็กซ์ร่วงลง 3.1%
ส่วนหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 9.7% หลังจากมีรายงานว่านายโธมัส เซเฟิร์ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินจะลาออก
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน ซึ่งช่วยพยุงดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.ปรับเพิ่มขึ้นแตะ 40 จากระดับ 37 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวนับว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ว่า จะอยู่ในช่วง 38-39
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยสมาคมธนาคารเพื่อการจำนองของสหรัฐ (MBA) จะเปิดเผยผลสำรวจการยื่นขอสินเชื่อจำนองรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.