นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ขยับขึ้นลำบากเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องถ้ากลุ่มพลังงานถูกกดันตลาดหุ้นคงขยับขึ้นไม่ได้ มองแนวต้าน 1,282 จุด แนวรับ 1,265 จุด ช่วงนี้สลับมาเล่นหุ้นขนาดกลาง เล็ก หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เช่น กลุ่ม ขนส่งทางอากาศ
ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังติดลบเป็นส่วนใหญ่แต่ไม่มาก หลังจากปัจจัยเรื่องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3)ที่ออกมาเป็นข่าวดีที่สุดแล้ว หลังจากนั้นต้องรอดูว่าจะสามารถดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ได้หรือเปล่า ซึ่งตอนนี้มีปัญหาค่อนข้างมาก ขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปก็ยังกดดันอยู่
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(18 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,564.64 จุด เพิ่มขึ้น 11.54 จุด(+0.09%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,459.32 จุด ลดลง 1.87 จุด(-0.13%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,177.80 จุด ลดลง 0.84 จุด(-0.03%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 42.75 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 1.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.76 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.16 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 7.59 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.52 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(18 ก.ย.)ที่ระดับ 1,273.70 จุด ลดลง 4.84 จุด(-0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 87.79 ล้านบาทเมื่อ 18 ก.ย.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 95.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.33 ดอลลาร์หรือ 1.38%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(18 ก.ย.)ปิดทำการที่ 8.12 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 30.85/86 แนวโน้มอ่อนค่า นลท.กลับมากังวลปัญหาหนี้ยุโรป
- ครม. ตีกลับโครงการจำนำข้าวรอบใหม่ เผย 3 หน่วยงานรุมค้าน ระบุใช้วงเงินสูง 4.05 แสนล้านบาท ขณะที่วงเงินรับจำนำปีก่อนบานปลาย 5.17 แสนล้าน รวม 2 ปียอดเงินจำนำรวมค่าดำเนินการพุ่ง 9.3 แสนล้านบาท ชี้เป็นภาระหนี้ประเทศและหนี้สาธารณะสูง ประเมินรัฐเสี่ยงแบกสต็อกข้าวเปลือกจำนำสูงถึง 50 ล้านตัน จี้ระบายสต็อกข้าวหาเงินหมุนเวียน
- หอค้าต่างชาติวิตกพิพาทจีน-ญี่ปุ่น กระทบเศรษฐกิจอาเซียน เจโทร ระบุไทยตัวเลือกหลักหากย้ายการลงทุน ด้านภาคเอกชนผวาฉุดตลาดส่งออก โตโยต้า ฮอนด้า ชี้ปิดโรงงานในจีนไม่กระทบ เผยนำเข้าชิ้นส่วนน้อย พร้อมโยกใช้แหล่งผลิตอื่นทดแทน
- 7 นิคมฯอยุธยา-ปทุมธานี เตรียมพร้อมรับน้ำท่วม จับตาน้ำหลากช่วงก.ย.-ต.ค.นี้ มั่นใจระบบแจ้งเตือนภัยและเขื่อนป้องกัน หลังเร่งสร้างเสร็จเกือบ 100% ทุกแห่ง ขณะกลุ่มค้าปลีก-ฮอนด้า ต่างเตรียมแผนฉุกเฉิน สร้างคลังสำรอง-สต็อกรับมือ
- แบงก์ห่วงเอ็นพีแอลจากปัญหาวิกฤติยุโรป-น้ำท่วม ชี้ลูกค้าที่ฟื้นฟูไปในปลายปี 2554 บางรายเริ่มส่งสัญญาณขอยืดหนี้เพิ่ม โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน ส่วนเอสเอ็มอียังมีไม่มากนักบางรายมีปัญหาเก่าอยู่แล้วทำให้ฟื้นยาก หวังภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องดันกำลังซื้อและการจ้างงานเพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอล
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 20.00 บาท แจ้งรายละเอียดการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 2,796 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 12.60 บาท ระยะเวลาจองซื้อ 4-11 ต.ค.55 ช่วยให้เงินกองทุนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 14.7% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ 9.7% เกิด Dilution effect ต่อกำไรต่อหุ้นประมาณ 20% แต่จะช่วยรองรับการขยายตัวของ KTB ในอนาคตได้
- SPALI(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 22 บาท ปรับเป้ายอด Presale ปี 55 เป็น 2.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 2.1 หมื่นล้านบาท คาดผลประกอบการปี 55-57 ยังเติบโตต่อเนื่อง ปี 57 จะเป็นปีที่โดดเด่นมากสุด มัจุดเด่นในแง่การบริหารต้นทุน ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดในกลุ่ม รวมถึงมีการรุกไปตลาดต่างจังหวัดมากกว่ารายอื่นๆ ก้าวสู่ Nationwide Developer
- SAMART(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 15.50 บาท เป็นหุ้น laggard ในกลุ่มไอซีที ปัจจัยบวกคือ การประมูลโครงการ APPS เดือน ต.ค.และโครงการ 3G เฟส 2 ของ TOT ไตรมาส 1Q13, หุ้น underperform กลุ่มไอซีที 17% และบริษัทลูก SAMTEL 13% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 8.5 เท่า ในปี 2013F