บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท(PS) คงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท แม้ว่ามีงานในมือ(backlog)ที่คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 2.8 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมดที่มีอยู่ ในขณะนี้รวมมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำนวน 1.4 หมื่นล้านบาทจะรับรู้ฯในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 25 โครงการในครึ่งปีหลัง มูลค่าโครงการรวม 1.75 หมื่นล้านบาท
ส่วนแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศนั้น บริษัทคาดว่าจะเดินหน้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามได้ภายในปีหน้า หลังจากสรุปปัญหาเวนคืนที่ดินภายในปลายปีนี้
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ PS กล่าวว่า ในปี 55 บริษัทยังคงเป้ารายได้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท แม้ปัจจุบันจะมี backlog ที่พร้อมจะรับรู้รายได้ 2.8 หมื่นล้านบาทก็ตาม เนื่องจากบริษัทยังคงเป้าแบบอนุรักษ์นิยม เพราะยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าในช่วงปลายปีจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือไม่ ทั้งกรณีน้ำท่วมหรือผลกระทบจากวิกฤติยุโรป
ในขณะที่ยอดพรีเซลล์ปีนี้ยังคงเป้าหมายที่ 2.9 หมื่นล้านบาทเช่นกัน โดยปัจจุบันมี Backlog แล้ว 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง 1.4 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ backlog สิ้นปีคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 25 โครงการ มูลค่า 1.75 หมื่นล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 3/55 จะเปิดตัว 7 โครงการ และไตรมาส 4/55 อีก 8 โครงการจากครึ่งปีแรกที่เปิดไปแล้ว 14 โครงการ
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 39 โครงการ ต่ำกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ช่วงแรกว่าจะเปิด 49 โครงการ เนื่องจากมี backlog รอรับรู้ฯ ตามเป้าหมายแล้ว จึงชะลอเปิดโครงการใหม่ออกไปก่อน โดยโครงการที่ชะลอออกไปนั้นจะมีการเปิดตัวในปี 56
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับในช่วงไตรมาส 3/55 สถานการณ์ความต้องการในเรื่องบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หวังว่าในเดือน ก.ย.-ต.ค.จะไม่เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากขณะนี้ดีมานด์ในตลาดเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่หลังจาก 2 สัปดาห์ที่เกิดน้ำท่วมและฝนตกหนักหลายพื้นที่ทำให้มีลูกค้าชะลอการตัดสินใจออกไปอีก 1 เดือน
"ไม่กังวลที่โครงการจะถูกน้ำท่วมอีก เพราะโครงสร้างของเรามีการรองรับไว้หมดแล้ว หวังว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนปีก่อน และพื้นที่ flagship ก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ตอนนี้ดีมานด์ยังมีอยู่ ลูกค้ายังไม่เปลี่ยนใจแต่ขอรอดูยาวอีกหน่อย"นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับโครงการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งล่าช้ามา 3 ปีแล้วนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มีความกังวลเนื่องจากราคาที่ดินปรับขึ้นไปถึง 1 เท่าตัวแล้ว แต่หวังว่าปัญหาการเวนคืนที่ดินเพื่อพัฒนาจะชัดเจนปีนี้ เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ"พฤกษา ทาวน์"เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 ชั้น มูลค่า 3.5 พันล้านบาท แผนก่อสร้างจะใช้เวลาเพียง 3 เดือน และเบื้องต้นอาจจะมีการปรับขึ้นราคาขายจาก 1.45 ล้านบาท/ยูนิต หลังจากราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะพัฒนาโครงการอื่นๆ ต่อเนื่องในเวียดนาม แต่ขอเริ่มนำร่องจากโครงการดังกล่าวก่อน