TMB ยังคงเป้าสินเชื่อปี 55 โต 15% แม้ H1/55 โตเพียง 6%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 19, 2012 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธ.ทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ในปี 55 ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อเติบโต 15% ถึงแม้ครึ่งแรกที่สินเชื่อเติบโต 6% จากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะมีผลต่อการส่งออก ซึ่งเชื่อว่าปีนี้ส่งออกของไทยจะขยายตัวไม่ถึง 5% ในส่วนของลูกค้าส่งออกของธนาคารยอมรับว่าขณะนี้มีการใช้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนลดลงเพื่อลดต้นทุนหลังจากราคาขายสินค้าต่อหน่วยปรับลดลง ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบเป้าสินเชื่อโดยรวมธนาคารจึงต้องปรับกลยุทธ์หันไปเร่งการขยายตัวของสินเชื่อ SME มากขึ้นเนื่องจากยังมีบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ขณะเดียวกันธนาคารต้องมีการกระบวนการอนุมัติสินเชื่อและบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

"การส่งออกมีมูลค่าลดลงมากโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรทำให้ความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนลดลง และน่าจะลดลงต่อเนื่องตอนนี้ยังเห็นไม่ชัดว่ากลุ่มไหนที่น่าเป็นห่วง แต่เชื่อว่านักธุรกิจน่าจะเข้าใจปัญหาได้มากขึ้น มีการบริหารความเสี่ยงได้มากขึ้น และน่าจะยังมีสภาพคล่องเพียงพอซึ่งแบงก์เองยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม" นายบุญทักษ์ กล่าว

พร้อมยืนยันว่าธนาคารยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนอย่างน้อยอีก 3 ปีเพื่อรองรับการดำเนินการตามเกณฑ์กำกับดูแล basel 3 โดยขณะนี้ธนาคารมีระดับเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ 11% หลังจากที่ได้มีการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิไปแล้ว 10,000 ล้านบาท ระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18-19% ถือว่าสูงอยู่ในระดับต้นๆของประเทศ

"เชื่อว่าจะสามารถรองรับการปฏิบัติตามเกณฑ์ basel 3 และรองรับการการขยายสินเชื่อให้เป็นไปตามแผน"

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามเกณฑ์ basel 3 อาจจะทำให้การบริหารสภาพคล่องของธนาคารมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นการบริหารสภาพคล่องของธนาคารจะต้องมีการวางกลยุทธ์ใหม่ จากปัจจุบันระบบธนาคารจะเป็นการรับเงินฝากระยะสั้นเพื่อปล่อยกู้ระยะยาว ดังนั้นในส่วนของ TMB ได้มีการเตรียมการปรับตัวมาตั้งแต่ปี 2551 โดยมีการวางกลยุทธ์ด้านเงินฝากให้มีต้นทุนต่ำและมีเสถียรภาพมากขึ้น มีการเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าอย่างเหมาะสมมากกว่าการยัดเยียด และมีรูปแบบเงินฝากที่เป็น Connect Communities ทำให้ปัจจุบันฐานลูกค้าเงินฝากที่เป็นรายย่อยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6.5% และมีการกระจายตัวมากขึ้นหลังจากที่ธนาคารได้มีการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าจากเงินฝากแต่ละประเภทและลูกค้าในแต่ละกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ