หุ้น FPI เปิดเทรดวันแรกที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท(+142.86%)จากราคาเสนอขาย IPO ที่ 3.50 บาท/หุ้น
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทให้มูลค่าเหมาะสมสิ้นปี 2555 ของบมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) อยู่ที่ 5.40 บาทต่อหุ้น และเพิ่มเป็น 6.62 บาท/หุ้น สำหรับปี 2556 ขณะเดียวกันคาดมีการจ่ายเงินปันผลปี 2555 (ภายใต้ Div Payout Ratio 30%) หุ้นละ 0.14 บาท และ 0.17 บาทในปี 2556
FPI เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและศูนย์รวมจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายใหญ่เฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอะไหล่ทดแทน (REM) สำหรับกลุ่มรถกระบะ 1 ตันของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก โดยมีการส่งออกชิ้นส่วนไปกว่า 110 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการผลิตชิ้นส่วนจำหน่ายในตลาด OEM โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าที่บริษัทผลิตเองในตลาด REM และ OEM ประมาณ 85 : 15 ซึ่งจะถูกขับเคลื่อนด้วยยอดผลิตรถยนต์ในไทย และปริมาณการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ทั่วโลก เมื่อรวมกับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มในงานสายพลาสติก และเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าเพื่อใช้เก็บสินค้าสำหรับงาน Trading คาดจะผลักดันให้รายได้จากการขายและบริการของ FPI เติบโตเฉลี่ยปีละ 18.3% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 2555-2556)
ปัจจัยบวกจากการเติบโตของยอดขาย ขณะที่ Gross Margin เฉลี่ยสูงถึง 21% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มยานยนต์ที่ 16% และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐ คาดจะเป็นแรงผลักดันให้ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท เติบโตสูงเท่าตัวจากปี 2554 และต่อเนื่อง 22.6% yoy ในปี 2556 ขณะที่ EPS ซึ่งรวมผลกระทบจากการเพิ่มทุนแล้ว ยังเติบโต 65% ในปี 2555 อยู่ที่ 0.45 บาท/หุ้น และ 0.55 บาท/หุ้นในปี 2556