นายบุญเกียรติ ชีวะตระกูลกิจ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านพัฒนากลยุทธ์และธุรกิจกลุ่มธุรกิจเกษตรอุสาหกรรมและอาหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) พร้อมขยายการลงทุนธุรกิจเกษตรอุสาหกรรมต่อเนื่องในพม่า เวียดนาม ลาว และกัมพูชา เพิ่มศักยภาพธุรกิจรองรับการเติบโตเศรษฐกิจภายในอินโดจีนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะในพม่าที่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตโตเท่าตัวในอีก 3 ปีหลังพม่าเปิดประเทศ หรือผลิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 20%
เครือซีพีเข้าไปลงทุนในพม่าตั้งแต่ปี 39 ภายใต้บริษัท Myanmar C.P. Livestock Co.Ltd. หรือ 16 ปีมาแล้ว ทำให้มีข้อมูลและเครือข่ายธุรกิจที่ดี ปัจจุบัน ในธุรกิจโรงงานผลิตอาหารสัตว์ มีกำลังการผลิต 2.5หมื่นตัน/เดือน หรือ 3แสนตัน/ปี ธุรกิจสัตว์บก มีทั้งไก่เนื้อ กำลังการผลิต 50 ล้านตัว/ปี ไก่ไข่ 5 ล้านตัว/ปี และธุรกิจแปรรูปอาหาร ได้แก่ โรงงานผลิตไส้กรอกและลูกชิ้น กำลังการผลิต 7 พันตัน/ปี และไก่ย่างห้าดาวที่เริ่มเปิดซุ้มขายหลายสิบจุดแล้ว
"เราเร่งโตเพราะประเทศพม่าเปิดประเทศแล้ว จากนี้ไปกลยุทธ์จะเปลี่ยนไปพร้อมลุย ก็คาดว่าในปี 2015 น่าจะเติบโตเท่าตัว ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม"นายบุญเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าค่าแรงในพม่าจะปรับสูงขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจซื้อมากขึ้น ซึ่งประชากรมีมากถึง 50 ล้านคนและการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่าของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป จะทำให้พม่ากลายเป็นโอกาสของการขยายฐานการผลิตเพื่อส่งออกได้ด้วย
ด้านนายสกล ชีวะโกเศรษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.กัมพูชา จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.ลาว จำกัด กล่าวว่า ซีพีได้ลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่องในทั้งสองประเทศ โดยในกัมพูชาปีนี้กำลังการผลิตของโรงงานผลิตอาหารสัตว์เริ่มเต็มกำลัง บริษัทจึงได้ลงทุน 300 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 35,000 ตัน/เดือน จากเดิม 24,000 ตัน/เดือน คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ ตั้งฟาร์มเลี้ยงสุกร 2 ยูนิตใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 1/56 รวมทั้งเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานไส้กรอกและลูกชิ้นอีก 20-30% โดยใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท
ส่วนในลาวจะขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องเช่นกัน โดยโรงงานผลิตอาหารสัตว์จะใช้งบลงทุน 150 ล้านบาทเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็นเท่าตัวหรือเท่ากับ 120,000 ตัน/ปี จากเดิมที่ 60,000 ตัน/ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ และลงทุนฟาร์มสุกรเพิ่มอีก 2 ยูนิต เป็นเงิน 200 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปีหน้า
เครือซีพีเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเมื่อปี 39 ในนามบริษัท C.P.Cambodia Co.Ltd. ในสปป.ลาว ซีพี โดยบมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) เข้าไปลงทุนเมื่อปี 49 ภายใต้ชื่อ C.P. Laos Co.Ltd
นายสกล คาดว่า ยอดขายทั้งสองประเทศจะเติบโตจากนี้ไปปีละ 20% โดยยอดขายทั้งลาวและกัมพูชาคิดเป็น 3-4% ของรายได้รวมของ CPF
ส่วนในเวียดนาม นายชัยนันท์ หนูเพ็ชร์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท. ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เวียดนามม่การเติบโตดี ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ 8 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์บก 4 แห่ง อาหารสัตว์น้ำ 3 แห่งและโรงงานพัฒนาคุณภาพข้าวโพดอีก 1 แห่ง รวมทั้งธุรกิจสัตว์น้ำสัตว์บก 30 สาขา และธุรกิจอาหารแปรรูป(FOOD)มีโรงงานผลิตไส้กรอก 2 โรงและโรงงานผลิตสัตว์น้ำกุ้งปลาแช่แข็งเพื่อส่งออก
ในปีนี้มีการลงทุนโรงงานอาหารสัตว์อีก 1 แห่ง กำลังการผลิต 7 แสนตัน/ปี วงเงินลงทุน 40 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่อง และขยายกำลังการผลิตโรงงานแปรูปสัตว์น้ำ 20 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
นายสกล กล่าวว่า กิจการในทั้ง 4 ประเทศมีแนวโน้มเติบโตทั้งตลาดภายในแต่ละประเทศและการผลิตเพื่อส่งออก