ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,282.68 จุด ลดลง 2.78 จุด(-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 34,390.62 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,286.68 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,276.12 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 227 หลักทรัพย์ ลดลง 321 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 144 หลักทรัพย์
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซต์เวย์อิงขาลง แต่ยังดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงเฉลี่ยเกือบ 1% ทั้งนี้ตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา หลังจากที่รับรู้มาตรการ QE3 ของสหรัฐฯไปแล้ว ขณะเดียวกันตัวเลข PMI ของจีนและยุโรปก็ออกมาไม่ดีด้วย
"เมื่อดัชนีฯขึ้นมาแถว 1,280 จุด ทำให้มองว่า upside คงจะมีจำกัดแล้ว เพราะหุ้นขึ้นมาสูงมากแล้ว ดังนั้น จึงแนะนำให้เล่นแค่เทรดดิ้งภายในวัน โดยช่วงนี้แนะให้รอซื้อแถว 1,250-1,260 จุด...แม้ตลาดฯจะมีการรีบาวน์แต่ก็เชื่อว่าคงจะไปได้ไม่ไกล"นายภาดล กล่าว
อนึ่ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 47.8 จากที่ 47.6 ในเดือนส.ค.แต่ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนยังคงหดตัว
ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ(PMI)รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนก.ย. จาก 46.3 ในเดือนส.ค.
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ก.ย.)นายภาดล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะพักตัวบ้างหลังที่ได้ขึ้นไปมากแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,275-1,285 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 1,789.08 ล้านบาท ปิดที่ 1.34 บาท ลดลง 0.11 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,471.80 ล้านบาท ปิดที่ 18.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,147.84 ล้านบาท ปิดที่ 442.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,104.01 ล้านบาท ปิดที่ 358.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,056.38 ล้านบาท ปิดที่ 337.00 บาท ลดลง 3.00 บาท