นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC)เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการส่วนต่อขยายโครงการผลิต MEG ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าภายใน 60 วันหลังยื่นขอหรือภายในเดือน ต.ค.55 นี้บริษัทจะได้รับอนุญาตให้เดินเครื่องผลิตโครงการดังกล่าว โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเดินเครื่อง
สำหรับการยื่นขอครั้งนี้หลังจากคดีความได้ถึงที่สุดในชั้นศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้มีการฟ้องร้องเมื่อปี 53 เท่ากับโครงการนี้ล่าช้าไป 2 ปี โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มีกำลังการผลิต 9.6 หมื่นตัน/ปี หรือกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 30% จะส่งผลให้กำลังการผลิต MEG ทั้งหมดของบริษัทรวมเป็นกว่า 4 แสนตัน/ปี และขณะนี้ราคาผลิตภัณฑ์ MEG อยู่ที่ประมาณ 1,500-1,600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ถุอว่าอยู่ในระดับที่ดีและสเปรดดีด้วย
บริษัทยังอยู่ระหว่างการทบทวนแผนลงทุน 5 ปี (ปี 56-60)วงเงินลงทุน 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐก่อนจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณา คาดว่าจะสรุปโครงการลงทุนทั้งหมดได้ภายในปลายปีนี้ ทั้งนี้โครงการในแผนงานดังกล่าวจะสนับสนุนทิศทางการเติบโตของบริษัท โดยเน้นไปที่สินค้าที่มีอัตรากำไร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งต้องมีดีมานด์เติบโต รวมทั้งการลงทุนต้องไม่ก่อหนี้ เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ไม่เกิน 0.7 เท่า และต้องมีอัตราผลตอบแทน(IRR) ไม่ต่ำกว่า 14%