บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินกรณีคดีหงสาของบมจ.บ้านปู(BANPU) สร้างผลกระทบต่อภาพรวม จากการที่ศาลแพ่งได้พิพากษาให้ BANPU และ บริษัทย่อย Banpu Power แพ้คดีในโครงการงหงสาลิกไนต์ ประเทศลาว สรุปต่อไปนี้ ชดใช้เงิน 4 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จสิ้น, ค่าขาดประโยชน์รายปี ระหว่างปี 2558-2570 ปีละ 860 ล้านบาท และปี 2571-2582 ปีละ 1,380 ล้านบาท
ผลกระทบที่จะตามมาคือ ผลกระทบในแง่ของมูลค่าเหมาะสมจากกรณีดังกล่าว 52 บาท ทำให้ราคาเหมาะสมลดลงเหลือ 480 บาท ซึ่งราคาหุ้น BANPU ลดลงทุก ๆ 2 บาท จะส่งผลกระทบต่อ SET INDEX ราว 0.07 จุด โดยราคาหุ้น BANPU จะไม่ฟื้นตัว ไปจนกว่าจะได้ข้อสรุปจากกรณีนี้ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
นอกจากนี้ ทิศทางราคาถ่านหินโลกยังคงมีความเสี่ยง จากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตในระดับต่ำ โดยเฉพาะจีน ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น BANPU ควรหลีกเลี่ยงออกไปก่อน
ส่วนนักลงทุนที่มีหุ้น BANPU ควรพิจารณา Cut Loss เพื่อหยุดความเสียหาย พร้อมกับการเปลี่ยนหุ้นลงทุน เช่น SCC, SCB, CPN เป็นต้น
วานนี้(20 ก.ย.)หุ้น BANPU ปิดที่ 442.00 บาท ลดลง 6 บาท(-1.34%)