พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น SPPT 8 รายการ จำนวน 22,982,785 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 114.91 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 5.00 บาท
ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานเทรดหลักอยู่ที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+2.15%)มูลค่าซื้อขาย 122.53 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.72 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 4.84 บาท และราคาลงต่ำสุด 4.66 บาท (เมื่อเวลา 16.22 น.)
นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท(ประเทศไทย)หรือ SPPT เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น SPPT ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นดีลที่บริษัทรับซื้อคืนจากผู้ถือหุ้นในราคาหุ้นละ 5 บาทในวันสุดท้ายของโครงการซื้อคืนหุ้น SPPT ส่วนที่หุ้นที่บริษัทฯรับซื้อคืนมานั้นก็คงจะต้องเก็บไว้ก่อน 6 เดือนตามกฎเกณฑ์ตลาดฯ และหลังจากนั้นก็ค่อยมาตัดสินใจว่าจะขายคืนบนกระดานในตลาดหลักทรัพย์ หรือจะนำหุ้นไปลดทุนต่อไป ซึ่งก็ยังไม่ได้ตัดสินใจในตอนนี้ว่าจะทำอย่างไรดี
อนึ่ง SPPT มีโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน 25,777,361 หุ้นหรือคิดเป็น 9.99% ของจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว วงเงินซื้อหุ้นคืน 128.89 ล้านบาท โดยเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ในราคา 5.00 บาทต่อหุ้น
นายประพจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 3/55 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2/55 เนื่องจากในไตรมาส 3/55 บริษัทฯคงจะมีการบันทึกค่าชดเชยจากน้ำท่วม 130 ล้านบาท
สำหรับโรงงานที่ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ก็ได้ลดการใช้อาคารเหลือเพียง 1 อาคารเท่านั้นจากเดิมใช้ 4 อาคาร และลดเครื่องจักรเหลือเพียง 15% ของเครื่องจักรทั้งหมด โดยได้ย้ายฐานการผลิตไปที่โรงงานที่สิงห์บุรีแทน หลังจากที่สิงห์บุรีได้สร้างโรงงานใหม่ และนำเครื่องจักรไปไว้ที่ชั้น 2 ประกอบกับ มีการสร้างรั้วกันไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม และที่ผ่านมาที่สิงห์บุรีก็ไม่ได้ประสบกับปัญหาน้ำท่วม