ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,286.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด(+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 39,572.05 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,288.37 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,282.33 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 303 หลักทรัพย์ ลดลง 211 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 176 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังผันผวนในกรอบ ซึ่งในช่วงเช้าตลาดฯรับ effect จากประเด็น BANPU แพ้คดีหงสาลิกไนต์พอสมควร และช่วงบ่ายก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรป หลังจากที่หลายประเทศออกมาตรการ QE กันแล้วทำให้มีการมองกันถึงเรื่องสภาพคล่องที่คาดว่าจะมีเงินไหลเข้ามาในตลาดทุน อย่างไรก็ดี ตลาดฯมีโอกาสที่จะเจอแรงขายทำกำไรแนวบริเวณแนวต้านที่ 1,300 จุด เนื่องจากตลาดฯปรับตัวขึ้นมามากแล้วเหมือนกัน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้แต่คงจะไม่ไกล เพราะระหว่างทางอาจเจอ take profit ได้ทุกเมื่อเหมือนกัน เพราะตลาดฯปรับตัวขึ้นมามากแล้ว
พร้อมให้จับตาข้อมูลเศรษฐกิจโลกเท่าที่ดูคงจะชะลอตัวเป็นตัวกดดันทำให้ตลาดฯจำกัดการปรับตัวขึ้น อีกทั้งการมี QE ที่ประกาศกันออกมามาก ทำให้บางคนก็วิตกในเรื่องของเงินเฟ้อที่อาจจะตามมาก็ได้ และเศรษฐกิจคงจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ทั้งนี้ให้แนวรับไว้ที่ 1,260 จุด แนวต้าน 1,300-1,310 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 6,574.21 ล้านบาท ปิดที่ 404.00 บาท ลดลง 38.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,205.31 ล้านบาท ปิดที่ 3.84 บาท ลดลง 0.02 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,377.58 ล้านบาท ปิดที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,030.20 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 921.56 ล้านบาท ปิดที่ 1.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท