CPALL ร่วมซัพพลายเออร์ออกสินค้าPrivate Brand,ตั้งงบ 5 พันลบ.ลงทุนปี 56

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 24, 2012 10:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพีออล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมกับซัพพลายเออร์พัฒนาสินค้า Private Brand หรือ House Brand เพื่อวางจำหน่ายในร้าน 7-11 โดยจะเน้นจุดขายคือราคาต่ำกว่าแบรนด์ดัง แต่คุณภาพดีใกล้เคียงกัน หรืออาจร่วมกันพัฒนาสินค้า Co-Brand โดยประกาศให้ซัพพลายเออร์ของร้าน 7-11 รับทราบทั่วกันในงานสัมมนา"ทิศทางค้าปลีก 56 และนโยบายด้านการบริหารสินค้า"เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(21 ก.ย.)

ทั้งนี้ บริษัทจะออก Private Brand 2 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ 7-Fresh ที่จะใช้กับสินค้าอาหารประเภท Ready to Eat และแบรนด์ 7-Select ใช้กับสินค้าไม่ใช่อาหาร ทั้งสองแบรนด์จะออกสินค้าในปี 56 จำนวนกว่า 200 รายการ เมื่อรวมกับสินค้า only@ ที่มีอยู่ 300 รายการ จะทำให้สินค้าที่จะมีขายเฉพาะในร้าน 7-11 เพิ่มเป็นจำนวนกว่า 500 รายการ ซึ่งจะสร้างความแตกต่างและความหลากหลายของสินค้าในร้าน

นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้มีการพูดคุยกับซัพพลายเออร์หลายรายที่สนใจเข้ามาร่วมทำ Private Brand ที่เป็นการสร้างแบรนด์ดัวเอง และไม่มีค่าการตลาด อีกทั้งเป็นการแข่งขันในตลาดที่คู่แข่งร้านค้าปลีกพยายามเข้ามาทำร้านเล็กเหมือน 7-11 และมีสินค้าเป็นแบรนด์ตัวเอง(House Brand) ได้แก่ โลตัส เอ็กซเพรส , มินิบิ๊กซี, ท้อปเดลี่ เป็นต้น ซึ่ง CPALL คาดว่าภายใน 3 ปีสินค้า private brand จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5-10% ของรายได้รวม

“CPALL จะร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเราต้องสร้างความแตกต่าง คู่แข่งหันมาทำสินค้าคุณภาพต่ำราคาถูก แต่ 7-11 จะทำสินค้าราคาถูกคุณภาพดี"นายปิยะวัฒน์ กล่าว

พร้อมกันนั้น บริษัทจะผลักดันการสินค้าซื้อขายผ่านเว็บไซด์ 7.com ให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองกระแสการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตที่มีเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยในเดือน ก.ย.55 บริษัทมียอดลูกค้าที่ซื้อสินค้า 3 แสนราย ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน หรือทั้งปี 55 อยู่ที่ 12 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายปีหน้าจะเติบโต 30-35% เป็น 20 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เชิญชวนซัพพลายเออร์เข้ามาร่วมขายสินค้าผ่าน 7.com ด้วย

นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 5 พันล้านบาทในปี 56 โดยจะนำไปขยายสาขาใหม่อีก 540 แห่ง ซึ่งจะเน้นร้านค้าที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นเป็น 3-4 คูหา จากเดิม 2 คูหา เพื่อรองรับจำนวนสินค้าวางจำแหน่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับปรุงสาขาเดิม ลงทุนระบบไอที รวมทั้งสร้างศูนย์กระจายสินค้าใหม่อีก 2 แห่ง ที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.ภูเก็ต ใช้เงินลงทุนแห่งละ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ สิ้น ส.ค. 55 CPALL มีจำนวนสาขาร้าน 7-11 ที่ 6,734 สาขา มีส่วนแบ่งการตลาด 15% ของตลาดค้าปลีกรวม ในปี 56 ทะลุถึงจำนวน 7 พันสาขา และในปี 61 ตั้งเป้าจะมี 1 หมื่นสาขา

ร้าน 7-11 ปัจจุบันมีคนเข้าร้าน 1,250 คน/วัน/สาขา รวมทั้งหมดจะมีคนเข้าร้าน 8 ล้านคน/วัน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 60 บาท/คน/วัน

ด้านรายได้รวมในปี 56 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 13-15% ต่อเนื่องจากปีนี้ที่รายได้เติบโตทั้งจากสาขาเดิมและสาขาใหม่ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าจะเติบโต 5.8% อัตราเงินเฟ้อ 3.5% เทียบกับปี 55 ที่เศรษฐกิจเติบโต 5.5-6% อัตราเงินเฟ้อที่ 3% โดยมองว่าปีหน้าร้านค้าปลีกขนาดเล็กมีโอกาสเติบโตมากและเข้าสู่ชุมชนมากขึ้น เนื่องมาจากครอบครัวที่เล็กลงและมีรายได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะเน้นเพิ่มสัดส่วนสินค้าอาหารในร้าน 7-11 เพิ่มเป็น 21-22% จากปัจจุบัน 20% ที่บริษัทเน้นร้าน 7-11 เป็นร้านอิ่มสะดวก จากร้านสะดวกซื้อ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภครับประทานอาหาร 5-7 มื้อต่อวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ