หุ้น UV ราคาพุ่งพรวดขึ้น 24.62% มาอยู่ที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 893.05 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.39 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.85 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 8.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.75 บาท
แหล่งข่าวจากบมจ.ยูนิเวนเจอร์(UV)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น UV ปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงต่อเนื่อง ทั้งที่บริษัทฯไม่ได้มีปัจจัยใหม่เพิ่มเติมจากการเข้าซื้อกิจการบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(GOLD)และ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์(Grand U)
แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากปัจจัยภายนอกบริษัทฯมากกว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ ราคาได้ปรับตัวขึ้นไปมาก โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาหุ้นอสังหาฯขึ้นไปแทบทุกตัว และส่วนหนึ่งคงเป็นมีเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดฯด้วย
และอาจจะด้วยมูลค่าหุ้นของบริษัทฯที่ยังต่ำกว่า 10 บาท ทำให้คนเห็นว่าหุ้นยังราคาถูก แต่ขณะนี้มูลค่าทางบัญชี(Book value)ณ สิ้นมิ.ย.55 ของบริษัทฯจะอยู่ที่ 2.57 บาท/หุ้น
"ที่ผ่านมาคนไม่ค่อยรู้จัก UV แต่พอมีข่าวเรื่องการทำเทนเดอร์ฯหุ้น GOLD ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น คนก็เลยสนใจ และช่วงระยะเวลานี้ก็มีนักลงทุนหลายรายเข้ามา visit บริษัทฯ มีทั้งกองทุน และบริษัทหลักทรัพย์ด้วย ซึ่งก็มีเข้ามาขอรับทราบข้อมุลของบริษัทฯ และแผนในอนาคต แต่ยังไม่ได้มีการ confirm แน่ชัดว่าจะเข้ามาลงทุน"แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนจะหานักลงทุนใหม่เข้ามาร่วมถือหุ้น เพราะคงจะต้องรอให้ผ่านเรื่องการทำเทนเดอร์ฯหุ้น GOLD สำเร็จก่อน
ทั้งนี้ UV กำหนดจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 ต.ค.55 เพื่อขอมติเพิ่มทุนเต็มจำนวน 8,200 ล้านบาท ตามที่บริษัทได้ประเมินวงเงิน Grand U คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 660 ล้านบาท และใช้เงินทำเทนเดอร์ฯหุ้น GOLD ประมาณ 7,000 ล้านบาท(กรณีที่ทำเทนเดอร์ฯ 100%)
บริษัทฯก็คงจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม(RO)ก่อน ในราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท/หุ้น แต่หากมีจำนวนหุ้นเหลือก็คาดว่าจะเสนอขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)ต่อไป อย่างไรก็ดี บริษัทฯได้รับวงเงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)บ้างแล้ว หากต้องการใช้เงินก็สามารถเบิกออกมาจ่ายได้เลย
"ตอนนี้เรายังไม่ได้มีแผนงานชัดเจนหลังจากที่ได้ GOLD มาแล้ว ซึ่งคงจะต้องรอให้ทำเทนเดอร์ฯเสร็จก่อน เพราะเรามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่งว่าจะต้องเก็บหุ้นให้ได้มากกว่า 50% หากต่ำกว่าจะยกเลิกทันที"แหล่งข่าวจาก UV กล่าว
สำหรับรายได้และกำไรของ UV ในปีนี้คาดว่าจะออกมาดีกว่าปีที่แล้ว แต่ก็คงจะดัขึ้นไม่มากนัก เพราะธุรกิจคอนโดมิเนียมจะต้องสร้างเสร็จก่อนขาย ปัจจุบันก็ขายของที่สร้างในปีที่แล้ว และโครงการใหม่ของบริษัทฯยังขึ้นไม่ทันขายในปีนี้ ดังนั้นก็คงจะต้องยกยอดไปขายในปี 56
อีกส่วนก็สินค้า Commodity ที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งราคาสังกะสีได้ดีขึ้นบ้างแล้วในตอนนี้
"เรายินดีนะที่หุ้น UV ปรับตัวขึ้น แต่ก็อยากจะดูว่ามีปัจจัยอะไรมาสนับสนุนเหมือนกัน"แหล่งข่าว กล่าวทิ้งท้าย