ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,287.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด(+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 34,855.89 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,290.70 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,284.46 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 289 หลักทรัพย์ ลดลง 260 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 151 หลักทรัพย์
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เหมือนกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ตลาดบ้านเราอิงมาทางบวก เนื่องจากกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับรอ Flow ที่จะเป็นผลมาจาก QE3 ด้วย ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่ได้เข้ามา
นอกจากนี้ ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศออกมา และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ รวมทั้งสถานการณ์ในยุโรป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาของสเปนที่ยังไม่มีคำตอบ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้ามองวอลุ่มเทรดของตลาดฯคงจะน้อยลงไปอีก เนื่องจากตลาดจีน, ตลาดฮ่องกง จะหยุดทำการหลายวันเนื่องในวันชาติจีน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(26 ก.ย.)นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ต่างจากวันนี้เท่าไรนัก เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา และหากราคาสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity) โดยเฉพาะราคาน้ำมันยังลดลงอีกก็อาจทำให้ตลาดฯปรับฐานได้ เป็นผลจากแรง take profit จากหุ้นในกลุ่มพลังงานและพวก Commodity
อย่างไรก็ดี ตอนนี้นักลงทุนต่างรอดูสถานการณ์มากกว่า พร้อมให้แนวรับ 1,275 จุด แนวต้าน 1,289-1,290 จุด โดยแนะนักลงทุนให้รอซื้อแถว 1,250-1,260 จุดเนื่องจากตลาดฯคงจะปรับฐานก่อน ส่วนพวก Daily trade ก็แนะนำให้เล่นเร็วหน่อยในการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว และต้องรู้จักการ cut loss ด้วย
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
UV มูลค่าการซื้อขาย 1,573.30 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,301.82 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BAY มูลค่าการซื้อขาย 1,184.25 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,153.73 ล้านบาท ปิดที่ 1.83 บาท ลดลง 0.06 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,046.41 ล้านบาท ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท