บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เตรียมเปิดโครงการแนวราบ 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ และยังจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่อีก 1 โครงการ มูลค่า 500 ล้านบาท ขณะที่มั่นใจว่ายอดขายทั้งปี 55 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1 หมื่นล้านบาท หลังจากในช่วง 8 เดือนแรกมียอดขายสะสมของบริษัทอยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดพรีเซล โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 2 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดินรีสอร์ท มูลค่าโครงการ 490 ล้านบาท มียอดขายเฟสแรกแล้ว 90% และล่าสุด เปิดตัวโครงการวิสต้าปาร์ค พระราม 2 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท
และจะทยอยเปิดโครงการแนวราบใหม่อีก 5 โครงการ ซึ่งจะทยอยเปิดพรีเซล ตั้งแต่เดือนต.ค. ประกอบด้วบย โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศน์, โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9- ศรีนครินทร์ บ้านหรูระดับพรีเมี่ยม, โครงการแกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด ใน 3 ทำเล คือ ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล สาย 2, ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม และพระราม 9-ศรีนครินทร์ และในแดอนพ.ย.จะเปิดคอนโดมิเนียม ย่านรัชดา-รามอินทรา มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นคอนโดแนวคิดใหม่ ภายใต้แบรนด์ใหม่
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 56 จำนวน 14 โครงการ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 11 โครงการ และโครงการคอนโดฯ 3 โครงการ และปีหน้าจะเริ่มเห็นหันมาเปิดคอนโดมิเนียมขนาดเล็กมากขึ้น โดยมีพื้นที่เริ่มต้น 28 ตร.ม ขนาด 1 ห้องนอน มีแผนเปิด 2โครงการ ภายใต้แบรนด์เซนทริก
ร.อ.กรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ SC กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทจะครบรอบ 10 ปี จึงตั้งเป้าที่จะมียอดรับรู้รายได้ที่ 1 หมื่นล้านบาท และมียอดขายที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จากปี 55 ที่ยอดขายอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท และรายได้ที่ 8 พันล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog)มูลค่า 6 พันล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 1.5 พันล้านบาท และที่เหลือจะไปรับรู้ในปี 56
และช่วงไตรมาส 3/55 คาดว่าจะมียอดขายที่ 8 พันล้านบาท เป็นไปตามภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกค่ายถือว่าปรับตัวดีขึ้น แต่ภาพรวมช่วงครึ่งปีหลังคงต้องรอดูในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.55 นี้ว่าน้ำจะท่วมอีกหรือไม่ หากไม่เกิดน้ำท่วมก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่โดยส่วนตัวมองว่าน้ำไม่น่าจะท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้ในช่วงไตรมาส 4/55 เป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกค่าย ภายใต้สถานการณ์ที่มีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น และอัตราดอกเบี้ยยังไม่สูง
ร.อ.กรี กล่าวว่า บริษัทมีแผนตั้งโรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปในปี 56 เพื่อช่วยเสริมการเติบโตของบริษัทในอนาคตและลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ใช้เงินลงทุนรวม 450 ล้านบาท สำหรับเฟสแรกจะลงทุน 150 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่กลางปี 56 ส่วนเฟส 2 ใช้เงิน 300 ล้านบาท
"ระบบ Pre-cast ไม่ได้ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง แต่ทำให้เร็วขึ้นและมีความแน่นอน เช่น ปกติทาวน์โฮมจะใช้เวลาก่อสร้าง 6 เดือน จะใช้เวลาเหลือเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น"ร.อ.กรี กล่าว